กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่อวิกฤตหนักรับภัยแล้งปีนี้ เหตุเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำน้อยที่สุดในรอบ 20 ปี ล่าสุดออกประกาศให้เกษตรกรยุติทำนาปรังและประมงทุกประเภท คาดกระทบเศรษฐกิจกว่าพันล้าน พร้อมตั้งวอร์รูมบูรณาการกู้วิกฤต ย้ำทุกบ้านต้องมีน้ำดื่ม พร้อมสร้างอาชีพเสริมให้กับเกษตรกรสู้ภัยแล้ง
ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าติดตามสถานการณ์น้ำแล้ง กับนายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังพบว่าทุกพื้นที่ปริมาณน้ำลดลงไม่ถึงร้อยละ 20 ไม่เฉพาะในพื้นที่ชลประทาน แต่นอกเขตชลประทานได้เกิดผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง
ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวได้รายงานสถานการณ์น้ำเหลือเพียง 438 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างทั้งหมดซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงในรอบ 20 ปี เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในปีนี้เข้าเขื่อนลำปาวเพียง 675 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 30 จากค่าเฉลี่ยในแต่ละปีกว่า 2 พันล้าน ลบ.ม.
นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการดำรงชีพของเกษตรกรไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการทำเกษตรกรและความจำเป็นต้องสำรองน้ำใช้ผลิตน้ำประปา จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ประกาศให้เกษตรกรในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ เนื้อที่ 350,000 ไร่ ให้ยุติการปลูกข้าวนาปรังและทำประมงทุกชนิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง
ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน อีก 14 อำเภอ เบื้องต้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลน้ำดื่ม จะต้องไม่ขาดแคลน และให้ประสานกับทางอำเภอจะเป็นผู้รายงานสรุปสถานการณ์ตามความเป็นจริง ด้วยการช่วยเหลือเร่งด่วนตามนโยบายบายของรัฐบาล
เพื่อเร่งแก้ปัญหา ทางจังหวัดได้ตั้งวอร์ลูม มีทุกหน่วยงานโดยเฉพาะหน่วยงานหลักประกอบด้วย สำนักงานชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ป้องกันจังหวัด ไว้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นจุดแจกจ่ายน้ำดื่ม โดยจะมีการบูรณาการอาชีพให้ทุกส่วนราชการสนับสนุน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า เหตุผลในการลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังเนื่องจาก น้ำมีไม่เพียงพอ นับจากนี้ไปอีก 7 เดือน ซึ่งจะกระทบพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังกว่า 350,000 ไร่ และกระทบต่อระบบการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกามกว่า 5,000 บ่อ อีกทั้งยังมีพืชผักสวนครัวพืชเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่า 1 พันล้านบาท