อธิบดีกรมการปกครอง เผย ยกเว้นภาษีบำรุงท้องที่ปี 55 ซึ่งต้องชำระใน เม.ย.56 ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งพื้นที่เพาะปลูกเสียหายผิดปกติ-ทำการเพาะปลูกไม่ได้ให้ยกเว้น ส่วนหลักเกณฑ์หากที่ดินเพาะปลูกเสียหาย 2 ใน 3 ให้ยกเว้นทั้งหมด เกินกว่า 1 ใน 3 ให้ลดภาษีตามส่วนที่เสียหาย
วันนี้ (18 ต.ค.) นายชวน ศิรินันท์พร อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันได้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกระจายโดยทั่วไป เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในหลายจังหวัด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร ตลอดจนพื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย กรมการปกครองในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 จึงพิจารณาให้ยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี 2555 ซึ่งกำหนดชำระภายในเดือนเมษายน 2556 ในพื้นที่เพาะปลูกที่ประสบอุทกภัย
ทั้งนี้ ได้แจ้งทุกจังหวัดดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแล้ว ซึ่งหากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้พิจารณาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยดำเนินการตามมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 และตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2527 โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ 1.ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกนั้นเสียหายมากผิดปกติ หรือทำการเพาะปลูกไม่ได้จากปัญหาอุทกภัยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณายกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ให้แก่ราษฎรผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
2.หลักเกณฑ์ในการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ ได้แก่ การที่ผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่รายใดเสียหายเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ให้ยกเว้นภาษีทั้งหมด และที่เสียหายเกินกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกให้ลดภาษีตามส่วนที่เสียหาย ทั้งนี้ จากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว จะทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรอันเนื่องจากอุทกภัย ได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนและมีเงินทุนเพียงพอสำหรับลงทุนทำการเกษตรครั้งต่อไปได้
วันนี้ (18 ต.ค.) นายชวน ศิรินันท์พร อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันได้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกระจายโดยทั่วไป เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในหลายจังหวัด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร ตลอดจนพื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย กรมการปกครองในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 จึงพิจารณาให้ยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี 2555 ซึ่งกำหนดชำระภายในเดือนเมษายน 2556 ในพื้นที่เพาะปลูกที่ประสบอุทกภัย
ทั้งนี้ ได้แจ้งทุกจังหวัดดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแล้ว ซึ่งหากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้พิจารณาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยดำเนินการตามมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 และตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2527 โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ 1.ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกนั้นเสียหายมากผิดปกติ หรือทำการเพาะปลูกไม่ได้จากปัญหาอุทกภัยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณายกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ให้แก่ราษฎรผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
2.หลักเกณฑ์ในการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ ได้แก่ การที่ผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่รายใดเสียหายเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ให้ยกเว้นภาษีทั้งหมด และที่เสียหายเกินกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกให้ลดภาษีตามส่วนที่เสียหาย ทั้งนี้ จากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว จะทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรอันเนื่องจากอุทกภัย ได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนและมีเงินทุนเพียงพอสำหรับลงทุนทำการเกษตรครั้งต่อไปได้