สมัชชาคนจนเอาด้วย-ค้านแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน ยมล่าง

แพร่ - สมัชชาคนจนทวงรัฐบาลแก้ไขปัญหาเขื่อนที่สร้างมาแล้ว และยุติการสร้างเขื่อนใหม่ ชี้เป็น “รัฐภัย” หากรัฐยังดันทุรัง พร้อมเดินหน้าคัดค้านจนตายกันไปข้าง จี้เร่งแก้ไขปัญหาคนจน ยุติการคุกคามจับกุมพี่น้องคนจนเทือกเขาบรรทัด

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า ในการประชุมพ่อครัวใหญ่สมัชชาคนจนจากทั่วประเทศกว่า 100 คน ซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายปัญหาป่าทับที่ทำกิน, เครือข่ายปัญหาที่ดิน, เครือข่ายปัญหาเขื่อน, เครือข่ายสภาผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม, เครือข่ายสลัมสี่ภาค, เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก, เครือข่ายประมงพื้นบ้าน ที่วัดดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ระหว่าง 4-6 ต.ค.55 ได้มีมติให้แถลงการณ์เร่งด่วนในการคัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ตามที่นโยบายของรัฐบาล และ กบอ. ได้เร่งผลักดันให้สร้างในเร็ววันนี้

นายสมเกียรติ พ้นภัย แกนนำชาวบ้านเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ได้กล่าวว่า สมัชชาคนจนได้เดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อให้กำลังใจพี่น้องสะเอียบที่คัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้นมายาวนานกว่า 20 ปี บัดนี้รัฐบาลได้ปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาอีกอรั้งหนึ่ง พวกเราสมัชชาคนจนจะร่วมกันคัดค้านจนถึงที่สุดให้มันตายกันไปข้างหนึ่ง

ด้านนายสมมิ่ง เหมืองร้อง อายุ 55 ปี ประธานคณะกรรมการ คัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น 4 หมู่บ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ กล่าวว่า รัฐบาลควรฟังเหตุผลของชาวบ้านบ้าง ไม่ใช่ตัดสินใจอยู่ในห้องแอร์ ทั้งที่รัฐบาลรู้ทั้งรู้ว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นแก้ไขน้ำแล้งน้ำท่วมไม่ได้ ยังดันทุรังจะกินป่าสักทองผลาญงบประมาณแผ่นดินอยู่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเราจะไม่ยอมให้รัฐบาลสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบนยมล่างโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าผู้เสียสละผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในอดีตที่ผ่านมา ชุมชนล่มสลาย ประเพณี วัฒนธรรมชุมชนพังทลาย ญาติพี่น้องแตกกันทุกที่

พร้อมกันนั้น สมัชชาคนจนยังได้ออกแถลงการณ์รวมพลังคนจนหยุดเขื่อนใหม่ แก้ไขปัญหาเขื่อนเก่า ยุติการข่มขู่คุกคามคนจน โดยระบุว่า จากการประชุมพ่อครัวใหญ่สมัชชาคนจน ในวันนี้ (4-6 ต.ค.2555) ที่วัดดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ที่ประชุมมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดันการสร้างเขื่อนใหม่ และเร่งแก้ไขปัญหาเขื่อนเก่าที่สร้างมาแล้ว รวมทั้งยุติการข่มขู่คุกคามพี่น้องคนจนเทือกเขาบรรทัด เขื่อนท่าแซะ

กว่า 40 ปีที่ผ่านมา รัฐได้พัฒนาโครงการเขื่อนขนาดใหญ่มามากกว่า 40 เขื่อน แต่พี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนยังคงเดือดร้อน พี่น้องผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ต้องอพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่กองขยะอ่อนนุช ในกรุงเทพมหานคร มีอาชีพใหม่คือ การเก็บขยะจากกองขยะขาย วิถีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง พี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี เขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา จ.ศรีสะเกษ ต้องอพยพเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานคร เพราะปลาที่เคยอพยพจากแม่น้ำโขงเข้ามาในแม่น้ำมูนไม่ได้ แม้จะมีบันไดปลาโจนลวงโลก ปลาก็เข้าแม่น้ำมูลไม่ได้ แม่น้ำชี แม่น้ำพอง ก็ไม่มีปลาเช่นกัน ไม่มีปลาก็หมดอาชีพ การพัฒนาบนคราบน้ำตาประชาชนเยี่ยงนี้ ต้องได้รับการทบทวน แก้ไข และเยียวยาให้แก่พี่น้องประชาชน

เขื่อนที่ยังไม่ได้สร้างอย่างเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง จ.แพร่, เขื่อนโป่งอาง จ.เชียงใหม่, เขื่อนแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, เขื่อนวังชมพู จ.พิษณุโลก, เขื่อนโป่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ, เขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร, เขื่อนคลองกลาย จ.นครศรีธรรมราช, เขื่อนลำโดมใหญ่ จ.อุบลราชธานี เขื่อนเหล่านี้คือ รัฐภัย ที่สร้างความหวาดผวาให้แก่พี่น้องต้องยืนหยัดต่อสู้คัดค้านกันมาอย่างยาวนาน พอกันทีกับภัยจากรัฐที่ยัดเยียดความเจริญจอมปลอม และควรยุติการผลักดันการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ได้แล้ว

สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดันเขื่อนใหม่ หันมาใช้แนวทางการจัดการน้ำชุมชน พัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ พัฒนาระบบเหมืองฝาย ฯลฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อคนยากคนจนมากกว่า และขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเขื่อนที่สร้างมาแล้วอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยุติการข่มขู่คุกคามพี่น้องคนจนเทือกเขาบรรทัด เขื่อนท่าแซะ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชนสืบไป