สถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่ของพม่ากลับสู่ภาวะปกติ

.

ซินหัว - สถานการณ์ความรุนแรงในเมืองหม่องทอ (Maungtaw) และพุทธทอง (Budhitaung) รัฐยะไข่ ภาคตะวันตกของพม่า กลับเข้าสู่ภาวะปกติ สถานีโทรทัศน์และวิทยุของทางการรายงานวานนี้ (9 มิ.ย.)

การกลับเข้าสู่ความสงบของพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศประสบความสำเร็จในเวลาเพียงหนึ่งวันหลังรัฐบาลดำเนินมาตรการจัดการกับความไม่สงบที่รวมทั้งประกาศเคอร์ฟิวนับตั้งแต่คืนวันศุกร์ และประชาชนในพื้นที่ถูกเรียกร้องให้ร่วมมือกับทางการเพื่อรักษาความสงบและความมั่นคง

รายงานระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่เมืองหม่องทอ มีประชาชนถูกฆ่า 7 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย บ้านเรือนกว่า 494 หลัง เกสต์เฮาส์ 1 หลัง และร้านค้า 19 แห่ง ถูกไฟไหม้พังเสียหาย

ในวันเสาร์ (9 มิ.ย.) มนตรีกลาโหม มุขรัฐมนตรีแห่งรัฐยะไข่ ผู้บัญชาการทหารภาคตะวันตก และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการสังคม บรรเทาและการตั้งถิ่นฐานใหม่ ของพม่า ได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นเรือรบบางลำของกองทัพเรือได้แล่นไปประจำการในน่านน้ำบริเวณชายฝั่งตะวันตกตั้งแต่วันเสาร์เพื่อป้องกันผู้คนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

ความรุนแรงปะทุขึ้นในช่วงบ่ายวันศุกร์ (8 มิ.ย.) เมื่อผู้ก่อจลาจลจุดไฟเผาทำลายบ้านเรือนประชาชน ร้านค้า และเกสต์เฮาส์ในเมืองหม่องตอ รวมทั้งฆ่าประชาชนและขโมยทรัพย์สิน ซึ่งความไม่สงบครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเกิดเหตุนองเลือดในรัฐยะไข่ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้า ที่ชาวมุสลิม 3 คนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าข่มขืนหญิงชาวยะไข่ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. และในเวลาต่อมา ชาวมุสลิม 10 คนถูกทุบตีจนเสียชีวิตจากกลุ่มม็อบที่โกรธแค้นในวันที่ 3 มิ.ย.

ตามรายงานล่าสุดระบุว่า ชาย 3 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าข่มขืนหญิงชาวยะไข่ได้ถูกจับกุมตัวแล้วและกำลังนำตัวขึ้นศาล ขณะเดียวกันรัฐบาลพม่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อเข้าสืบสวนเหตุรุนแรงนองเลือดที่เกิดขึ้นและผลสรุปจะรายงานต่อประธานาธิบดีโดยตรงภายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้.