xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุสันติภาพในพม่าอาจสำเร็จภายใน 3 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายออง มิน รัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟได้รับหน้าที่เจรจายุติความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับชนกลุ่มน้อยในพม่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายในห้องทำงานที่กรุงเนปีดอ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. รัฐบาลพม่าคาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มกบฎชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มในประเทศภายใน 3 เดือน ก่อนที่จะเริ่มต้นขั้นตอนเจรจาทางการเมืองเพื่อสร้างสันติภาพชั่วนิรันดร์. --REUTERS/Martin Petty.  </font></b>

รอยเตอร์ - ผู้เจรจาเพื่อสันติภาพระดับสูงของพม่ากล่าววันนี้ (16 ก.พ.) ว่า รัฐบาลพม่าคาดการณ์ว่าการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับทุกกลุ่มกบฎติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในประเทศจะเสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน ก่อนที่จะเริ่มต้นขั้นตอนการเจรจาทางการเมืองเพื่อสร้างสันติภาพอย่างถาวร

ในการสัมภาษณ์ครั้งแรกกับสำนักข่าวต่างประเทศ นายออง มิน นายพลเกษียณราชการและดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ มีหน้าที่ในการเจรจายุติความขัดแย้งที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ กล่าวว่า การปกครองในระบอบทหารนาน 49 ปี ไม่เคยทำให้สันติภาพเกิดขึ้น แต่รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ของประเทศได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มกบฎต่างๆ ด้วยการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างยั่งยืนผ่านแรงจูงใจทางเศรษฐกิจในพื้นที่ขัดแย้ง

"นี่คือโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานานกว่า 60 ปี ที่รัฐบาลไม่สามารถรักษาได้เพราะใช้วิธีการรักษาไม่เหมาะสม มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงในประเทศของเราและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ช่วยให้เราหาวิธีที่จะรักษาโรคเรื้อรังนี้ได้" นายออง มิน กล่าว

การสร้างสันติภาพกับกลุ่มกบฎ ที่ส่วนใหญ่เรียกร้องการปกครองตนเองภายใต้สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า"ระบบรัฐบาลกลาง" แบบเดียวกับในสหรัฐและสหภาพยุโรป เป็นเงื่อนไขสำหรับชาติตะวันตกที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า ประเทศด้อยพัฒนาแต่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้

นายออง มิน กล่าวว่า แรงจูงใจของรัฐบาลพม่าไม่ได้มาจากการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

"ผมไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ เราเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะกบฎชนกลุ่มน้อยหรือทหาร พวกเขาคือครอบครัวของเรา" นายออง มิน กล่าว

กลุ่มกบฎ 9 กลุ่มจากทั้งหมด 16 กลุ่ม ได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลและคาดหวังว่าข้อตกลงอีก 6 ฉบับจะบรรลุภายในไม่กี่เดือนนี้ ที่รวมทั้งข้อตกลงกับกองทัพกะฉิ่นอินสระ หรือ KIA หนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุด ที่กองทัพพม่ายังคงต่อสู้ด้วย

นายออง มิน กล่าวว่า พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะยา (KNPP) จะลงนามข้อตกลงในวันที่ 1 มี.ค. และยังมีพรรคเล็กๆ อีก 5 พรรค ที่พร้อมจะวางอาวุธสงบศึก แต่นายออง มิน ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งกับรัฐกะฉิ่น ที่ยังมีการปะทะกันแม้จะมีคำสั่งจากประธานาธิบดีเต็งเส่งและผู้บัญชาการทหารให้ยุติการโจมตีก็ตาม

"ตานฉ่วยเกษียณจากราชการทหารอย่างสมบูรณ์แบบ เราไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งหรือทำตามเพราะอิทธิพลของเขา ซึ่งในขณะนี้แทบไม่มีการติดต่อกับทหารเลย ตานฉ่วยมีห้องสมุดขนาดใหญ่อยู่ถัดไปจากบ้านพัก ในตอนที่เขายังมีอำนาจ เขาไม่เคยมีเวลาที่จะได้อ่านหนังสือเหล่านั้น แต่ตอนนี้เขากำลังอ่านหนังสือพวกนั้นอยู่ เรารู้สึกขอบคุณต่อความเป็นผู้นำของเขาในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน การเปลี่ยนแปลงอย่างสันติจากระบอบเผด็จการทหารไปสู่สังคมประชาธิปไตย" นายออง มิน กล่าวถึงต่านฉ่วย

นายออง มิน ยังปฏิเสธความคิดคาดเดาเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในรัฐบาลระหว่างกลุ่มคนแนวคิดปฏิรูปกับอดีตนายทหารในยุคเผด็จการ

"นั่นเป็นข่าวลือทั้งหมด พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี" นายออง มิน กล่าว พร้อมระบุว่าประธานาธิบดีเต็งเส่งได้วางแผน 3 ขั้น สำหรับการสร้างสันติภาพกับกลุ่มกบฎที่เกี่ยวข้องกับการหยุดยิง ข้อตกลงทางการเมือง และการตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับผู้คนที่พลัดถิ่นฐาน จากนั้นจึงจะมีการประชุมสภาครั้งพิเศษที่คนทุกกลุ่มจะเข้าร่วมเพื่อหารือข้อตกลงระยะยาวที่ยั่งยืน

ปัญหาสำคัญของพม่านับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 คือข้อเรียกร้องจากชนกลุ่มน้อยที่ต้องการปกครองตนเอง ซึ่งนายออง มิน ไม่ได้กล่าวถึงว่าสิ่งดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ระบุว่าอาจจัดการสิ่งต่างๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ที่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ และชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ จะได้รับการสนับสนุนให้จัดตั้งพรรคการเมืองและเข้าร่วมในรัฐสภา

"การเจรจาอาจต้องใช้เวลาและจากนั้นเราจะมีการประชุมสมัชชาแห่งชาติ แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเจรจาหารือซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานแน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มต่างๆ ว่าสามารถทำให้เรื่องคืบหน้าได้รวดเร็วหรือใช้เวลายาวนานขึ้น" นายออง มิน กล่าว

นอกจากนั้นนายออง มิน ยังกล่าวถึงแรงงานพม่าที่อยู่ในต่างประเทศและผู้ลี้ภัย ที่ส่วนหนึ่งอยู่ในประเทศไทย ว่าอาจได้รับการสนับสนุนให้เดินทางกลับประเทศด้วยข้อเสนอที่เป็นแรงจูงใจ เช่น ค่าจ้างที่สูงกว่าที่ได้รับในไทย ที่ดินสำหรับทำการเกษตร อาชีพในโรงงาน และโครงการพัฒนาตามหมู่บ้านต่างๆ

"ในอดีต เราไม่เคยคิดถึงข้อตกลงหลังการหยุดยิง ก่อนหน้านี้เราคิดแค่เพียงแค่การสงบศึกเท่านั้น และในเวลานี้คือแผนสำหรับความสงบสุขชั่วนิรันดร์" นายออง มิน กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น