ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวรอยเตอร์ชี้ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหลบหนีคดีไปต่างประเทศ กำลังพยายามสร้างบทบาททางการเมืองในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นน้องสาว มากขึ้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจสั่นคลอนสันติภาพอันเปราะบางภายในประเทศ
รอยเตอร์ระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักโทษหนีคดีรายนี้ได้เดินทางเยือนหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เนปาล หรือแม้แต่พม่า ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นการปูทางให้กับการเยือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเยือนพม่าในวันพฤหัสบดี (15) ที่ผ่านมา ได้พบกับประธานาธิบดีเต่งเส็ง และนายพลตานฉ่วย แม้แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดยืนยันว่า เป็นการเดินทางส่วนตัว และไม่มีการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกิดขึ้นก็ตาม
แม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ วัย 62 ปี ได้ถูกโค่นลงจากตำแหน่งในปี 2006 และต้องลี้ภัยไปอยู่ดูไบ แต่เขากลับไม่เคยเลือนหายไปจากการเมืองไทย และชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายของพรรคเพื่อไทย ยิ่งทำให้อำนาจในมือของเขาแข็งแกร่งขึ้น
นักวิเคราะห์อิสระชี้ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อนักการเมืองหน้าใหม่อย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งกำลังพยายามออกจากเงาของพี่ชาย และยืนยันความเป็นผู้นำที่แท้จริงของประเทศ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก ทั้งยังเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ต่อต้าน และผู้สนับสนุนเขาอีก
กานต์ ยืนยง ผู้อำนวยการสยามอินเทลลิเจนซ์ยูนิต กล่าวว่า "ทุกคนรู้ว่าทักษิณเป็นผู้ที่ชักใยรัฐบาลใหม่อยู่เบื้องหลัง แต่ไม่มีใคร (ในรัฐบาล) อยากออกมาป่าวประกาศ"
กานต์ยังระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุด ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการอ้างสิทธิความเป็นตัวแทนของประเทศ ทั้งที่ตามหลักการแล้วเขาเป็นนักโทษคดีอาญานั้น เป็นการข้ามหน้าข้ามตาเกินไป
"ในปีที่จะมาถึงนี้ ผมคิดว่าเราคงได้เห็นคุณทักษิณพยายามอย่างหนักที่จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง" เขาเสริม
ขณะที่ รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะพยายามให้ความช่วยเหลือน้องสาวผู้อ่อนประสบการณ์ แต่แรงจูงใจหลักของเขาก็คือการได้อยู่ในความสนใจ
"มันไม่เหมือนว่าเขาจะแข่งขันกับน้องสาวของเขา แต่เขาต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเขายังมีบทบาทอยู่ในรัฐบาลใหม่ชุดนี้" รศ.สุขุมชี้