ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น สภาอุตสาหกรรม นักธุรกิจ และสื่อมวลชน เยือนสหภาพเมียนมาร์ตามโครงการสานสัมพันธ์การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าพบเอกอัครราชทูตไทยประจำเมืองย่างกุ้ง และเข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการกับผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด ตัวแทนส่วนราชการ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม นักธุรกิจ ของจังหวัดมะริด เพื่อเตรียมเปิดจุดผ่อนปรนช่องสิงขร เมืองประจวบฯ เป็นด่านถาวรในปลายปีนี้ คาดหวังพลิกโฉมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในอนาคต
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายสิริวุฒิ เหมทัต ปลัดจังหวัดประจวบฯ ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบฯ ป้องกันจังหวัด โยธาธิการฯ คลังจังหวัด ด่านศุลกากรประจวบฯ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หอการค้าประจวบฯ สภาอุตสาหกรรมประจวบฯ นักธุรกิจ และสื่อมวลชน เดินทางไปยังเมืองย่างกุ้ง และเมืองมะริด สหภาพเมียนมาร์ โดยที่เมืองย่างกุ้งได้เข้าพบนายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
ในโอกาสนี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนพม่าครั้งนี้เพื่อมาติดตามความคืบหน้าในการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสิงขร เป็นด่านถาวร หลังจากหน่วยงานภาครัฐ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมกันผลักดันมานานหลายปี เพราะมีความเชื่อมั่นว่าหากเปิดเป็นด่านถาวรเชื่อโยงการค้ากับเมืองมะริดได้ จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของทั้ง จ.ประจวบฯ
โดยการขนส่งสินค้าสัตว์น้ำจะลดเวลาการขนส่ง ซึ่งเดิมจากเมืองมะริดไประนอง ชุมพร ประจวบฯ และเข้ากรุงเทพฯ ใช้เวลานาน และต้นทุนสูง แต่หากเส้นทางจากเมืองมะริด ผ่านเมืองตะนาวศรี ด่านสิงขรประจวบฯ ระยะทาง 200 กม.เท่านั้น ที่ผ่านมา จังหวัดประจวบฯ ได้มีการติดต่อประสานงานกับทางหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ภาครัฐของจังหวัดมะริดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้น ทางจังหวัดมะริดก็มีความต้องการอยากที่จะเปิดเส้นทางเชื่อมการค้าระหว่างประเทศ
นายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงของพม่าเริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะศักยภาพทางเศรษฐกิจของพม่า เริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลพม่ามีการเปลี่ยนแปลง และมีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ทั้งการปกครอง รวมทั้งการเปิดกว้างสำหรับสื่อมวลชนของพม่าเอง ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า จะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีอีกครั้งของพม่า ทั้งเรื่องของการที่พม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ การเลือกตั้งทั่วไป และการเป็นประธานอาเซียน ซึ่งทางพม่ามีการเตรียมพร้อมในการที่จะเปิดประเทศพม่าอย่างเต็มรูปแบบ
“ผมมองว่าเป็นโอกาส แต่อยากจะกล่าวว่าไม่อยากให้มองประจวบฯ เป็นเพียงทางผ่านเพียงเท่านั้น ซึ่งการเปิดด่านสิงขร ทั้งผู้นำพม่ากับนายกรัฐมนตรีของไทย ก็มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งก็คงต้องช่วยกันผลักดันต่อไป ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงเพราะอยู่ในนโยบายของรัฐบาล 2 ฝ่าย และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งอยู่ในช่วงที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศกับส่วนราชการกำลังพัฒนาแนวความคิดให้เป็นผลที่เป็นรูปธรรม เรื่องของการเชื่อมโยงจะต้องดำเนินการควบคู่ประเด็นแรกเป็นเรื่องความเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพราะแนวความคิดต่างๆ ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องคิดเพิ่มเติม คือ การรับมือกับผลกระทบต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับการเชื่อมโยงถนนหนทางที่ดีขึ้น อาจจะทำให้มาซึ่งปัญหาต่างๆ ซึ่งส่วนราชการจะต้องคิดถึงกับผลกระทบ และปัญหาที่จะเกิดขึ้น และติดตาม ซึ่งต้องวางแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาให้ดีมีระบบ”
ขณะเดียวกัน นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมคณะทั้งหมดได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดมะริด ที่เข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการกับผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด และหน่วยงานรัฐ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม นักธุรกิจ ฯลฯ ของจังหวัดมะริด โดยการประชุมใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเสร็จสิ้นแล้วเปิดโอกาสให้ทั้งภาครัฐ เอกชนของจังหวัดประจวบฯ และฝ่ายจังหวัดมะริด ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
นายวีระ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนของจังหวัดมะริดเห็นด้วยกับทางจังหวัดประจวบฯ ที่กำลังผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนช่องสิงขร เป็นด่านถาวรในปลายปีนี้ ซึ่งขณะนี้ ทางจังหวัดมะริดโดยเฉพาะภาคเอกชน กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจากจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี-บ้านมูด่อง-ด่านสิงขร ประจวบฯ ระยะทาง 200 กม.ซึ่งจะมีการว่าจ้างให้ทางภาคเอกชนฝั่งไทยเป็นผู้ดำเนินการปรับปรุงเส้นทางให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้การได้ในเดือนธันวาคมปีนี้
“ผมยอมรับว่าหากเปิดเป็นด่านถาวรได้ และเส้นทางการคมนาคมแล้วเสร็จ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง จะเป็นการพลิกโฉมของจังหวัดประจวบฯ โดยสินค้าอุตสาหกรรมสัตว์น้ำก็จะออกจากจังหวัดมะริดซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมประมง-ตะนาวศรี เข้าสู่ด่านสิงขรประจวบฯ มหาชัย-กรุงเทพฯ เวลาเดินทางน้อยลง รวมไปถึงการลงทุน และการท่องเที่ยวก็จะตามมา ปัจจุบัน ภาคเอกชนของทางจังหวัดมะริดยังได้เตรียมพื้นที่ไว้อย่างน้อย 3,500 ไร่ ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ทั้งประมง เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ บริเวณห่างจากด่านสิงขรไปประมาณ 10 กม.และเตรียมจัดตั้งอาคารสำนักงานหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
ไม่เพียงเท่านั้น ทางจังหวัดประจวบฯ ได้เชิญหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน จังหวัดมะริด มาเยือนจังหวัดประจวบฯ อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2555 ซึ่งทางจังหวัดมะริดได้ตอบรับแล้ว ทั้งนี้ ยังคงมีนักธุรกิจของไทยจากหลายพื้นที่ได้ให้ความสนใจในเรื่องของการลงทุนที่ฝั่งพม่า หลังจากจังหวัดประจวบฯ ได้มีการผลักดันเปิดเป็นด่านถาวร เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะปัจจุบัน บ้านมูด่องห่างจากด่านสิงขร 3 กม. ฝั่งพม่า เริ่มเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรอยู่ประมาณ 4,000-4,500 ครอบครัว"” ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าว
