“พาณิชย์” ตั้งเป้าดันการค้าชายแดนเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท รองรับเปิด AEC ในปี 2558 พร้อมตั้งทีมเฉพาะกิจทำแผนบุกเจาะตลาดเพื่อนบ้านทั้งด้านการค้า การลงทุน และท่องเที่ยว คาดสรุปเสนอ “ปู” พิจารณาต้น ต.ค.นี้ เอกชนเสนอเพิ่มด่านถาวรอีก 10 แห่ง
นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานส่งเสริมการสร้างฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน วันนี้ (17 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดันมูลค่าการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย กัมพูชา พม่า และลาว ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
ทั้งนี้ เฉพาะการค้าชายแดนได้ตั้งเป้าขยายมูลค่าเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท เพิ่มจากเป้าหมายปี 2555 ที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาท มีแผนที่จะผลักดันให้สำเร็จภายในปี 2558 รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยการดำเนินการจะมีการตั้งคณะทำงานย่อยจัดทำแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาภาคเกษตรและอุตสาหกรรมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการส่งออกไปประเทศที่ 3 รวมไปถึงการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวพร้อมกันในหลายประเทศ และจัดตั้งองค์กรส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ระหว่างกันในประเทศเพื่อนบ้าน
“ได้มอบหมายให้คณะทำงานย่อยไปเร่งทำแผนปฏิบัติการ และแนวทางแก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เพื่อนำเสนอในที่ประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ทันในต้นเดือน ต.ค.นี้ โดยแนวทางจะไม่ได้มุ่งแค่การค้าขายในประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่จะมุ่งร่วมมือเพื่อผลักดันขยายการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวผ่านไปสู่ประเทศที่ 3 ด้วย” นายโอฬารกล่าว
สำหรับการเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้า ภาคเอกชนได้เสนอให้เร่งยกระดับจุดผ่านแดนชั่วคราวเป็นด่านถาวร 10 ด่าน เช่น ด่านพุน้ำร้อน ด่านกิ่วผาวอก ด่านห้วยต้นนุ่น ด่านสิงขร ซึ่งเป็นด่านติดชายแดนประเทศพม่า ด่านบ้านหม้อ ติดชายแดนประเทศลาว ด่านหนองเอียน ติดชายแดนกัมพูชา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนย้ายสินค้ารองรับการเป็น AEC ในปี 2558 รวมทั้งปรับปรุงด่านถาวร เช่น ขยายเวลาทำงานด่านแม่สาย และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณด่านตากใบ และด่านเชียงคาน ซึ่งมีประชาชนและสินค้าผ่านเข้าออกจำนวนมาก
นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานส่งเสริมการสร้างฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน วันนี้ (17 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดันมูลค่าการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย กัมพูชา พม่า และลาว ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
ทั้งนี้ เฉพาะการค้าชายแดนได้ตั้งเป้าขยายมูลค่าเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท เพิ่มจากเป้าหมายปี 2555 ที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาท มีแผนที่จะผลักดันให้สำเร็จภายในปี 2558 รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยการดำเนินการจะมีการตั้งคณะทำงานย่อยจัดทำแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาภาคเกษตรและอุตสาหกรรมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการส่งออกไปประเทศที่ 3 รวมไปถึงการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวพร้อมกันในหลายประเทศ และจัดตั้งองค์กรส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ระหว่างกันในประเทศเพื่อนบ้าน
“ได้มอบหมายให้คณะทำงานย่อยไปเร่งทำแผนปฏิบัติการ และแนวทางแก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เพื่อนำเสนอในที่ประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ทันในต้นเดือน ต.ค.นี้ โดยแนวทางจะไม่ได้มุ่งแค่การค้าขายในประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่จะมุ่งร่วมมือเพื่อผลักดันขยายการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวผ่านไปสู่ประเทศที่ 3 ด้วย” นายโอฬารกล่าว
สำหรับการเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้า ภาคเอกชนได้เสนอให้เร่งยกระดับจุดผ่านแดนชั่วคราวเป็นด่านถาวร 10 ด่าน เช่น ด่านพุน้ำร้อน ด่านกิ่วผาวอก ด่านห้วยต้นนุ่น ด่านสิงขร ซึ่งเป็นด่านติดชายแดนประเทศพม่า ด่านบ้านหม้อ ติดชายแดนประเทศลาว ด่านหนองเอียน ติดชายแดนกัมพูชา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนย้ายสินค้ารองรับการเป็น AEC ในปี 2558 รวมทั้งปรับปรุงด่านถาวร เช่น ขยายเวลาทำงานด่านแม่สาย และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณด่านตากใบ และด่านเชียงคาน ซึ่งมีประชาชนและสินค้าผ่านเข้าออกจำนวนมาก