xs
xsm
sm
md
lg

หอฯ ประจวบ-หอฯ มะริด จับมือลงนาม “เอ็มโอยู” รับเปิดด่านสิงขรถาวรเชื่อมโยงเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับมือภาคเอกชน จัดรับฟังความคิดเห็น โอกาส ศักยภาพการยกระดับด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมลงบันทึกความเข้าใจระหว่างหอการค้าประจวบฯ กับหอการค้าจังหวัดมะริด สหภาพเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดด่านถาวรที่เมืองประจวบฯ ในปลายปีนี้เพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านตามโครงการ 1 ด่านชายแดน 1 ประตูการค้า

วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางอำพัน รุ่งแจ้ง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบฯ และนายไพศาล มะระพฤกษวรรณ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าสินค้าอุตสาหกรรมและบริการ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลคลองวาฬ เทศบาลเมืองประจวบฯ อบต.คลองวาฬ หอการค้า ส.อบจ.บางสะพาน สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็น โอกาส ศักยภาพการยกระดับด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร ตามโครงการ 1 ด่านชายแดน 1 ประตูการค้า ในปี 2558 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้มี MR.TUN TUN WIN รองประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด และนักธุรกิจจากสหภาพเมียนมาร์ กว่า 40 คนได้เดินทางทางมาเยือนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ฯลฯ ได้นำคณะของผู้แทนหอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริดได้เดินทางศึกษาดูงานที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกประจวบคีรีขันธ์ เครือสหวิริยา ท่าเรือประมงคลองวาฬ ท่าอากาศยานหัวหิน พระมหาธาตุเจดีย์ ภักดีประกาศ โรงงานสัปปะรดกระป๋อง ทิปโก้ และสภาพพื้นที่บริเวณด่านสิงขร ฝั่งประเทศไทย และเส้นทางด่านสิงขรบ้านมูด่อง-ฝั่งพม่าที่จะเชื่อมต่อไปยังเมืองตะนาวศรี-มะริด หลังเสร็จสิ้นการศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว

MR.TUN TUN WIN รองประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด และนักธุรกิจจากสหภาพเมียนมาร์ กว่า 40 คนได้เข้าร่วมสัมมนา พร้อมทั้งนักธุรกิจชาวไทยทั้งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดต่างๆ กว่า 50 คนเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นในการยกระดับด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวรในปลายปีนี้

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจของภาคเอกชน ระหว่างเมืองมะริด และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปเยือนจังหวัดมะริดมาแล้ว โดยยังเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างไทย-พม่าในสองจังหวัดชายแดน เพื่อนำไปสู่การสถาปนาความสัมพันธ์อันดีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งยังเป็นการเชื่อมเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญระหว่างไทยกับพม่า และเพื่อนำไปสู่การร่วมกันผลักดันเปิดด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวรในปลายปีนี้
 
นอกจากนี้ ทั้งภาคเอกชนของทั้งประจวบฯ และมะริด จึงได้จัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับ MR.TUN TUN WIN รองประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรม จังหวัดมะริด สหภาพเมียนมาร์ โดยบันทึกข้อตกลงมีความสำคัญ ระหว่างทั้ง 2 จังหวัดเห็นร่วมกันในการส่งเสริมกระตุ้น แลกเปลี่ยนร่วมมือ

ตลอดจนการแก้ไขปัญหาร่วมกันด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เกษตรกรรม การประมง ตลอดจนความมั่นคง และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการติดต่อประสานงานกันระหว่างหอการค้า สภาอุตสาหกรรม จังหวัดมะริด และหอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ถือเป็นตัวแทนของจังหวัดมะริด และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหากมีข้อตกลงใดๆ ที่ยังหารือไม่เสร็จสิ้นให้ทั้งสองฝ่ายร่วมหารือในโอกาสต่อไป

สำหรับบันทึกความเข้าใจจัดทำเป็นภาษาไทย อังกฤษ และภาษาเมียนมาร์ จะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันลงนามเป็นต้นไป โดยบันทึกนี้ทั้งสองฝ่ายจะเก็บไว้ฝ่ายละ 1 ชุด สำหรับบันทึกดังกล่าวไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายแต่ประการใด ซึ่งบันทึกฉบับนี้ได้ลงนาม ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราชอาณาจักรไทย

นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวในเวทีสัมมนาว่ารู้สึกดีใจที่มีการพบปะผู้แทนการค้าจังหวัดมะริดที่มาเยือนในวันนี้เพราะทั้งวัฒนธรรม และสิ่งต่างๆ คงไม่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญเป็นเมืองพุทธเหมือนกัน และมั่นใจหากมีการเปิดด่านถาวร เชื่อมไปสู่จังหวัดมะริด ในอนาคตอันใกล้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนได้มากยิ่งขึ้น
 
สำหรับจังหวัดประจวบฯ ครบเครื่องในเรื่องเศรษฐกิจ มีทั้งอุตสาหกรรมเกษตร สับปะรด มะพร้าว ประมง และอุตสาหกรรมเหล็กขนาดใหญ่ ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ก็ติด 1 ใน 10 ของประเทศไทย ซึ่งนอกจากได้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้าแล้ว ยังจะสามารถเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคตได้อีก
 
ส่วนจังหวัดมะริด และเมืองตะนาวศรี มีทั้งศิลปวัฒนธรรม เจดีย์ วัดเก่าแก่มากมาย รวมไปถึงแม่น้ำตะนาวศรี เกาะต่างๆ ในมะริดเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยว ซึ่งในนามของภาคเอกชนเราจะร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจทำงานร่วมกันโดยจะไม่ยอมให้ผลประโยชน์มาทำลายมิตรภาพ และสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างหอการค้าจังหวัดมะริด และประจวบฯ นอกจากนั้นแล้ว ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติในหลักการยกระดับจุดผ่อนปรนช่องสิงขรเป็นด่านถาวร และให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในขั้นตอนต่างๆ ต่อไป

ด้านนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐของจังหวัดประจวบฯ กับภาคเอกชน ที่ร่วมกันผลักดันการเปิดด่านสิงขรมาเกือบ 10 ปี ซึ่งก็นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งนับเป็นการเปิดประตูการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อีก 1 จุดที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งพื้นที่ฝั่งพม่าเหมาะสมกับการลงทุนทางการเกษตร

ขณะเดียวกัน MR.TUN TUN WIN รองประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรม จังหวัดมะริด สหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสภาพเศรษฐกิจที่ดีมาก เป็นต้นแบบที่ดีของของอาเซียน ที่ผ่านมา ในช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มีคณะนักธุรกิจไทยและหน่วยงานรัฐมาเยือนจังหวัดมะริดถึง 10 คณะด้วยกัน มีการปรึกษาถึงเรื่องการค้า การลงทุน ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด การเปิดด่านการค้าประจวบฯ จะทำให้การค้าชายแดนสองประเทศพัฒนามากยิ่งขึ้น ทางฝั่งพม่าห่างจากบ้านมูด่องไม่ไกล จะมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ และอยากเชิญชวนให้นักลงทุนของไทยไปลงทุน โดยทางภาคเอกชนจะขอเช้าพื้นที่จากรัฐบาลพม่า และนักลงทุนจากไทยก็สามารถมาขอเช่าคนละไม่เกิน 50 ไร่

ส่วนการดำเนินการสร้างถนนจากจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี-บ้านมูด่อง ระยะทางประมาณ 200 กม.นั้นขณะนี้ทางภาคเอกชนได้เตรียมเริ่มดำเนินการในต้นเดือนตุลาคม ซึ่งจะเสร็จทันในช่วงที่จะมีการเปิดด่านถาวร ในเดือนธันวาคม อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นตัวอย่างในภูมิภาคต่อไป

ซึ่งในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งภาครัฐ เอกชน ของทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดมะริด เห็นด้วยกับการเปิดด่านถาวรในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในอนาคต โดยทางหอการค้าจังหวัดมะริด ยืนยันว่าในปลายปีนี้ เส้นทางจากจังหวัดมะริด-เมืองตะนาวศรี บ้านมูด่อง-สู่ด่านถาวรสิงขรประจวบฯ ระยะทาง 200 กิโลเมตรนั้น จะสามารถซ่อมแซมจนสามารถใช้การสัญจรผ่านไปมาได้อย่างแน่นอน ส่วนทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ระบุว่าข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะในวันนี้จะนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมรองรับในการเปิดด่านถาวรสิงขรต่อไป

อย่างไรก็ตาม การสัมมนาในครั้งนี้ยังมีนักธุรกิจจากทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้ให้ความสนใจเข้าร่วมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่สนใจในจุดการค้าการลงทุนกับจังหวัดมะริด หากมีการผลักดันเปิดด่านถาวรได้สำเร็จในปลายปีนี้ และยังให้เหตุผลด้วยว่า ปัจจุบันรัฐบาลพม่ามีการปกครองที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยจะสังเกตได้ว่าพม่าได้เปิดประเทศเพื่อนำไปสู่การพัฒนาของสหภาพเมียมาร์ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจุดผ่อนปรนช่องสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ ในปัจจุบันยังมีการค้าขาย และเข้าออกของชาวพม่าจากฝั่งพม่าบ้านมูด่อง ข้ามมาฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก และบริเวณดังกล่าวยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาซื้อสินค้า จึงต้องคอยติดตามว่าในปลายปีนี้ ด่านสิงขรจะเป็นด่านถาวรได้หรือไม่ เพราะหากเป็นไปตามที่มีการประชุมในครั้งนี้ ย่อมส่งผลดีต่อทั้งจังหวัดประจวบฯ และจังหวัดมะริดอย่างแน่นอน








กำลังโหลดความคิดเห็น