สุรินทร์ - ตร.ทางหลวง-เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.-ตำรวจ สภ.สังขะ-หน่วยป้องกันรักษาป่า สร.1 อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และ ตชด.214 ไล่ล่าจับกุมแก๊งขนไม้พะยูง แสบวางตะปูเรือใบสกัดเจ้าหน้าที่แต่ไปไม่รอด จอดทิ้งรถข้างทางเผ่นหนีเข้าป่า ยึดไม้พะยูงของกลางได้ 35 ท่อน มูลค่าส่งออกกว่า 2.5 ล้าน พร้อมรถปิกอัพ 1 คัน
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ตำรวจทางหลวง สทล.3 กองกำกับการ 6 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ, ตำรวจ สภ.สังขะ, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 214 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 อ.สังขะ นำโดย พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพชรศิริรักษ์ ผกก.3 บก.ปทส.พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมคิด ทิพย์จักรพงษ์ รอง ผกก.3 บก.ปทส., ร.ต.ต.มนตรี มีศรี ปทส.จังหวัดสุรินทร์, ร.ต.ต.แก้ว ชาวนาใน ตร.สทล.3 กก.6 อ.สังขะ และ นายสันติ ศรีศิลปกร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1อ.สังขะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 35 ท่อน รวมปริมาตรไม้ 2.36 ลูกบาศก์เมตร บรรทุกอยู่ในรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ติดตั้งโครงหลังคาอะลูมิเนียม หมายเลข ทะเบียน บบ 4914 ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูง ไม้หวงห้ามผิดกฎหมายออกจากป่าเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รอยต่อ อ.บัวเชด และ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดทำการจับกุม จึงได้วางกำลังสกัดตามเส้นทางจาก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 24 สายสีคิ้ว-เดชอุดม มุ่งหน้าสู่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พบรถกระบะต้องสงสัยดัดแปลงติดตั้งโครงหลังคาอะลูมิเนียมปิดฝามิดชิด ตรงตามที่สายข่าวรายงานจึงขับรถติดตาม แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ขับรถติดตามรถเป้าหมายดังกล่าว ได้มีรถยนต์และจักรยานยนต์ของขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงขับไล่ติดตามรถของเจ้าหน้าที่พร้อมขับปาดหน้า และโรยตะปูเรือใบสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งยางรถยนต์ของเจ้าหน้าที่เหยียบตะปูเรือใบ ยางรั่วไป 1 คัน
กระทั่งรถเป้าหมายวิ่งมาถึงบริเวณบ้านแสนสนุก ต.เกาะแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ คนร้ายที่ขับรถหนีเจ้าหน้าที่ได้หยุดจอดรถกะทันหันแล้วลงจากรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างถนนหายไปกับความมืดอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์ต้องสงสัยมาทำการตรวจสอบ ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงสังขะ พบภายในรถบรรทุกไม้พะยูงมาจำนวน 35 ท่อน ขนาดหน้าตัด 6-10 นิ้ว ยาว 2 เมตรครึ่ง จำนวน 2.36 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าการซื้อขายในพื้นที่กว่า 500,000 บาท และจะมีราคาสูงขึ้นอีก 5 เท่า หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท เมื่อส่งขายไปต่างประเทศได้สำเร็จ จึงนำของกลางทั้งหมดส่งให้ ตำรวจ สภ.สังขะ ลงบันทึกประจำวัน และติดตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 ฐานความผิดมีไม้หวงห้าม ยังไม่ได้แปรรูป โดยไม่มีรูปรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรายหนึ่งเปิดเผยว่า ขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงจากป่าชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อส่งต่อให้กับนายทุนนั้น มีการวางแผนลักลอบขนไม้ไว้เป็นอย่างดี มีรถคอยคุ้มกันและสกัดการไล่จับ รวมทั้งโรยตะปูเรือใบสกัดรถเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตามไม่ทัน
นอกจากนั้นยังมีการดัดแปลงรถยนต์ที่ใช้บรรทุกขนไม้พะยูงให้มิดชิดเหมือนกับการบรรทุกสินค้าทั่วไป และให้สามารถบรรทุกไม้ได้ครั้งละจำนวนมาก พร้อมทำหลายหลักฐานรถยนต์ที่นำมาใช้ขนไม้พะยูง ทั้งหมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขแชสซีส์รถ และใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่
