สุรินทร์- ตร.ทางหลวง ร่วม บก.ปทส.-ตำรวจ สภ.สังขะ และจนท.หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ สร.1 อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ไล่ล่าจับแก๊งขนไม้พะยูงออกจากป่าชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจยึดได้ของกลางไม้พะยูง บรรทุกในรถปิกอัพ 32 ท่อน มูลค่าหลายล้าน พร้อมปิกอัพ 1 คัน ส่วนผู้ต้องหากระโดดออกจากรถวิ่งหนีลอยนวล
วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 10.30 น. ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สทล.3 กก.6 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.),ตำรวจ สภ.สังขะ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 อ.สังขะ นำโดย พ.ต.อ. ศิริพงษ์ เพชรศิริรักษ์ ผกก.3 บก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมคิด ทิพย์จักรพงษ์ รอง ผกก.3 บก.ปทส., ร.ต.ต.มนตรี ปทส.จังหวัดสุรินทร์, ร.ต.ต.แก้ว ชาวนาใน สทล.3 กก.6 อ.สังขะ, นายสันติ ศรีศิลปกร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1อ.สังขะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 32 ท่อน ปริมาตรไม้ 2.40 ลูกบาศก์เมตร บรรทุกมาในรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ทะเบียน บพ 8131 อุบลราชธานี ติดโครงหลังคาเหล็กจำนวน 1 คัน
ทั้งนี้ การตรวจยึดไม้พะยูงดังกล่าวสืบเนื่องจากสายข่าวรายว่าจะมีขบวนการลักลอบบรรทุกไม้พะยูงออกจากป่าพื้นที่ชายแดนรอยต่อห้วยศาลาฝั่งช้าย อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับห้วยศาลาฝั่งขวา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าติดเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 หน่วยงานจึงได้มีการประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ติดตามขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงออกจากพื้นที่ชายแดนตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการตรวจพบรถปิกอัพ มีโครงหลังคาเหล็ก ดัดแปลงเป็นรถบรรทุกวิ่งออกจากห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ ในเวลา 02.00 น. (14 ก.ย.) มาตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 หน่วยงานจึงได้ไล่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด แต่ขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงได้ใช้รถยนต์หลายคันขับประชิดและขับตัดหน้ารถเจ้าหน้าที่ไม่ให้สกัดจับรถขนไม้พะยูงได้ แต่ในที่สุดรถบรรทุกไม้พะยูงก็หนีไม่พ้น เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้ในพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ โดยคนขับได้จอดรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ทิ้งไว้เพียงรถยนต์กระบะกับของกลางไม้พะยูงจำนวน 32 ท่อน ปริมาตร 2.40 ลูกบาศก์เมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม้พะยูงทั้งหมด พบเป็นไม้พะยูงขนาดความยาว 2.5 เมตร หน้าตัด 6-10 นิ้ว ซึ่งเป็นการตัดไม้พะยูงตามใบสั่งที่มีขนาดความยาวและหน้าตัดเท่ากันหมด มูลค่าไม้หากส่งออกไปขายต่างประเทศได้จะมีมูลค่าจำนวนหลายล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจสอบ และลงบันทึกการตรวจยึดก่อนนำของกลางมาเก็บไว้ ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 อ.สังขะ เพื่อติดตามหาเจ้าของมาดำเนินคดี ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์ขนไม้พะยูงคันดังกล่าว พบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม ขณะที่ป้ายกำกับการเสียภาษีประจำปี ระบุเป็นทะเบียน ณว 2666 กรุงเทพมหานคร ส่วนหมายเลขเครื่องยนต์-แชสซีส์รถถูกลบทิ้ง และรถยนต์มีการดัดแปลงให้บรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้นเพื่อขนไม้พะยูงเป็นการเฉพาะ