ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถภูเก็ต หอบหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีผู้บุกรุกเขตอุทยานฯ เพิ่มอีก 1 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะเริ่มลงสำรวจแนวเขตป่าสงวนในวันนี้
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ยศพัฒน์ สุวรรณสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง กรณีตรวจสอบพบบริษัทแลนด์สเตท จำกัด และบริษัท บางเทาบีช จำกัด บุกรุกแผ้วถาง และปรับพื้นที่ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ หลังจากมีการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตามนโยบายของ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามยุทธการทวงคืนแผ่นดิน เพื่อนำผืนป่า-อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศกลับคืนเป็นของแผ่นดิน
นายชีวะภาพ กล่าวถึงการเดินทางเข้าแจ้งความในครั้งนี้ว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ประมวลเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งทางผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแลนด์สเตท จำกัด และบริษัท บางเทา บีช จำกัด นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จำนวน 4 ฉบับ และจากการตรวจสอบพบว่า ได้มีการแผ้วถางป่า ตัดต้นไม้ ต้นยางพารา ไถปรับพื้นที่ ทำทางรถยนต์วิ่ง ทำลำรางให้น้ำไหลผ่าน และมีการทำรั้วกั้นแสดงการครอบครองพื้นที่นอกแนวเขตโฉนดที่ดินที่มีการนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
และได้ระบุว่า พื้นที่ที่มีการดำเนินการแผ้วถางดังกล่าวเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ รายละเอียดตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสนทะเล เขารวกเขาเมือง และบริเวณหาดในยาง ต.ไม้ขาว ต.สาคู และ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2524
ทางคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิสูจน์แล้วและเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 มาตรา 55 ประกอบมาตรา 72 ตรี ก่นก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา16 (1) (4) ประกอบมาตรา 24 ฐานยึดถือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ดิน หิน กรวด หรือทราย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายชีวะภาพกล่าวว่า การแจ้งความในครั้งนี้ถือเป็นรายที่ 5 ของผู้ที่กระทำผิดในการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ จากจำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น จำนวน 11 ราย โดยเอกชนรายดังกล่าวได้มีการนำเอกสารสิทธิซึ่งเป็นโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ปรากฏว่า ในส่วนที่มีการตรวจพบนั้นเป็นการดำเนินนอกแนวเขตโฉนด ทั้งนี้ ก็จะได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่าโฉนดที่ได้มานั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไร แต่ก็คงต้องใช้เวลา และตรวจสอบอย่างรอบคอบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีของรายอื่นๆ ที่มีการแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้บางรายก็ได้มีการนำเอกสารไปแสดงต่อพนักงานสอบสวน บางรายก็ได้มีการดำเนินการให้เจ้าพนักงานที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตเพื่อความชัดเจน และบางรายก็ยังไม่มีการนำหลักฐานใดๆ มาแสดง ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้บริษัท ลาคอรีน จำกัด ทำการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ของอุทยานฯ ขณะนี้ ก็ดำเนินการไปแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ที่เดินทางลงมาสำรวจแนวเขตป่าสงวนที่ประกาศโดยกรมป่าไม้เมื่อปี 2507 ขณะนี้มีการประมวลเอกสารบางส่วนซึ่งได้จากสำนักงานที่ดินสาขาถลาง เพื่อหาแนวเขตป่าสงวน โดยจะเริ่มลงพื้นที่ในวันนี้
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ยศพัฒน์ สุวรรณสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง กรณีตรวจสอบพบบริษัทแลนด์สเตท จำกัด และบริษัท บางเทาบีช จำกัด บุกรุกแผ้วถาง และปรับพื้นที่ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ หลังจากมีการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตามนโยบายของ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามยุทธการทวงคืนแผ่นดิน เพื่อนำผืนป่า-อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศกลับคืนเป็นของแผ่นดิน
นายชีวะภาพ กล่าวถึงการเดินทางเข้าแจ้งความในครั้งนี้ว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ประมวลเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งทางผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแลนด์สเตท จำกัด และบริษัท บางเทา บีช จำกัด นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จำนวน 4 ฉบับ และจากการตรวจสอบพบว่า ได้มีการแผ้วถางป่า ตัดต้นไม้ ต้นยางพารา ไถปรับพื้นที่ ทำทางรถยนต์วิ่ง ทำลำรางให้น้ำไหลผ่าน และมีการทำรั้วกั้นแสดงการครอบครองพื้นที่นอกแนวเขตโฉนดที่ดินที่มีการนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
และได้ระบุว่า พื้นที่ที่มีการดำเนินการแผ้วถางดังกล่าวเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ รายละเอียดตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสนทะเล เขารวกเขาเมือง และบริเวณหาดในยาง ต.ไม้ขาว ต.สาคู และ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2524
ทางคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิสูจน์แล้วและเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 มาตรา 55 ประกอบมาตรา 72 ตรี ก่นก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา16 (1) (4) ประกอบมาตรา 24 ฐานยึดถือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ดิน หิน กรวด หรือทราย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายชีวะภาพกล่าวว่า การแจ้งความในครั้งนี้ถือเป็นรายที่ 5 ของผู้ที่กระทำผิดในการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ จากจำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น จำนวน 11 ราย โดยเอกชนรายดังกล่าวได้มีการนำเอกสารสิทธิซึ่งเป็นโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ปรากฏว่า ในส่วนที่มีการตรวจพบนั้นเป็นการดำเนินนอกแนวเขตโฉนด ทั้งนี้ ก็จะได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่าโฉนดที่ได้มานั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไร แต่ก็คงต้องใช้เวลา และตรวจสอบอย่างรอบคอบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีของรายอื่นๆ ที่มีการแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้บางรายก็ได้มีการนำเอกสารไปแสดงต่อพนักงานสอบสวน บางรายก็ได้มีการดำเนินการให้เจ้าพนักงานที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตเพื่อความชัดเจน และบางรายก็ยังไม่มีการนำหลักฐานใดๆ มาแสดง ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้บริษัท ลาคอรีน จำกัด ทำการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ของอุทยานฯ ขณะนี้ ก็ดำเนินการไปแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ที่เดินทางลงมาสำรวจแนวเขตป่าสงวนที่ประกาศโดยกรมป่าไม้เมื่อปี 2507 ขณะนี้มีการประมวลเอกสารบางส่วนซึ่งได้จากสำนักงานที่ดินสาขาถลาง เพื่อหาแนวเขตป่าสงวน โดยจะเริ่มลงพื้นที่ในวันนี้
