กาญจนบุรี - อุทยานแห่งชาติเอราวัณนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย รื้อบ้านพักตากอากาศริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี เนื้อที่ 5 ไร่ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (31 ส.ค.) นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณนำกำลังเจ้าหน้าที่ 20 นาย พร้อมอุปกรณ์การรื้อถอนอาคาร เดินทางไปที่บ้านบนเขาแก่งเรียงหมู่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เพื่อทำการรื้อถอนบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง ทำเลของอาคารดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งมีบรรยากาศที่เย็นสบาย และสวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนบ้านพัก 2 ชั้น หลังขนาดเล็กสไตรีสอร์ต โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้เวลาในการรื้อถอนแล้วเสร็จประมาณ 2 วัน จากนั้นก็จะเริ่มทำการรื้อถอนอาคารบ้านพักตากอากาศหลังขนาดใหญ่สูง 3 ชั้น ซึ่งเจ้าของอาคารกำลังทำการก่อสร้างโดยก่อสร้างได้เฉพาะโครงหลังคาเท่านั้น แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ตรวจยึดเสียก่อน ทั้งนี้ อาคารหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้เวลาในการรื้อถอนแล้วเสร็จประมาณ 1 เดือน และจากการสอบถามผู้ดูแลทราบว่า เจ้าของบ้านพักตากอากาศเป็นชาวจังหวัดนครปฐม โดยตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินรวมทั้งการก่อสร้างอาคารบ้านจนแล้วเสร็จประมาณ 14-15 ล้านบาท
นายกมล เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติเอราวัณได้ทำการตรวจยึดอาคารบ้านพักตากอากาศทั้ง 2 หลังไว้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าของเป็นชาวจังหวัดนครปฐม ชื่อนางณัฐธยาน์ กาญจนนาคินทร์ โดยอาคารบ้านพักเริ่มก่อสร้างเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุการตรวจยึดเนื่องมาจากเจ้าของอาคารได้ทำการปลูกบ้านพักในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณโดยไม่ได้รับอนุญาต และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ทั้งนี้ คดีดังกล่าว นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติได้ให้สำคัญ และเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
โดยอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้มีประกาศให้ผู้ครอบครองที่ดิน และอาคารดังกล่าวให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนพืชผลอาสินทั้งหมดออกไปพ้นจากที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504
แต่อย่างไรก็ตาม การรื้อถอนอาคารบ้านพักตากอากาศทั้ง2 หลัง ทางอุทยานฯ เองได้รับความร่วมมือจากนางณัฐธยาน์ กาญจนนาคินทร์ เจ้าของอาคารเป็นอย่างดีโดยได้นำคนงานมาช่วยกันรื้อถอนจนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้บุกรุกที่อุทยานฯ เพื่อนำไปก่อสร้างโรงแรม บ้านพัก หรือรีสอร์ต ทั้งนี้เจ้าของอาคารดังกล่าวมาทราบภายหลังว่าปลูกสร้างอาคารในเขตพื้นที่อุทยานฯ รวมทั้งที่ดินจำนวน 5 ไร่ที่ซื้อมานั้น ก็ซื้อต่อมาจากบุคคลที่น่าเชื่อถือจึงไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะซื้อที่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยขอให้ตรวจสอบเอกสารที่ดินให้แน่ชัดเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกหน่วยงานรัฐยึดคืนเช่นกรณีของนางณัฐธยาน์ กาญจนนาคินทร์ อย่างแน่นอน
ด้านนายสรรสฤษดิ์ แตงจันทรา ผู้ดูแลกล่าวว่า ตนได้รับการมอบอำนาจจากเจ้าของอาคารเพื่อให้มาดูแลความเรียบร้อยอาคารระหว่างทำการรื้อจนกว่าจะแล้วเสร็จ เท่าที่ตนทราบ บ้านพักตากอากาศที่กำลังก่อสร้าง และกำลังถูกรื้อถอนนั้นเบื้องต้นเจ้าของที่ครอบครองเป็นญาติพี่น้องกัน และได้ร่วมกันลงทุนก่อสร้างเอาไว้สำหรับพักผ่อนพร้อมกับบุตรหลาน แต่ตนไม่ทราบว่าจะสร้างเพื่อทำรีสอร์ตหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้ทำการตรวจยึดเจ้าของบ้านพักก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยินยอมที่จะทำการรื้อถอนตามกฎหมายของกรมอุทยานฯ อย่างเต็มใจ
