สุโขทัย - “ยิ่งลักษณ์” ลงพื้นที่วัดราชธานีติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำทะลักท่วมเขตเทศบาลสุโขทัยธานี พอใจหลังเกเบียน-บิ๊กแบ็กได้ผลหยุดน้ำไหลเข้าได้พร้อมเดินหนาสูบน้ำออก โปรยยาหอมชาวบ้านไม่เกิน 2 วันสถานการณ์ปกติพร้อมเตรียมเดินหน้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเต็มที่ ระบุสั่งการชลประทานวางแผนระบายน้ำอย่าให้กระทบพื้นที่ตอนล่าง เชื่อนน้ำท่วมไม่ใช้เพราะน้ำเยอะ-คาดมวลน้ำไม่น่ากระทบจุดอื่น
วันนี้ (13 ก.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่วัดราชธานี เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เพื่อติดตามการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่ถูกกัดเซาะ จนเป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาล โดยมีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวรายงานสถานการณ์ถึงสาเหตุที่ทำให้พนังกั้นน้ำพัง และแนวทางการแก้ไขซึ่งได้ปรับเปลี่ยนจากการพยายามซ่อมแซมจุดที่เกิดการรั่วไหลในช่วงแรก มาเป็นการใช้ตาข่ายบรรจุหินและบิ๊กแบ็กโอบล้อมจุดที่น้ำทะลัก จนสามารถหยุดการไหลของน้ำได้ 100% และสามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่ได้ คาดว่าจะภายใน 2 สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับว่า ตั้งแต่ทราบข่าวภัยพิบัติก็ติดตามการทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสั่งการให้การดูแลประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหากเป็นเหตุปกติ คงไม่เกินความสามารถของคูคลองในการระบายน้ำ เพราะเห็นได้ว่าไม่ได้เกิดจากปริมาณน้ำล้นตลิ่ง แต่เกิดจากน้ำท่วมขังลอดใต้พนังกั้นน้ำแล้วทะลักเข้ามาในเขตเทศบาล
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการทุ่มเททำงานด้วยหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เพียง 3 วันก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์จากปีที่แล้ว และการตื่นตัวในการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่อีกส่วนที่มีความสำคัญคือการปรับศูนย์บัญชาการส่วนหน้า และการสั่งการแบบซิงเกิลคอมมานด์ในทุกจังหวัด ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ผู้ว่าราชการสามารถทำงานได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของจังหวัดสุโขทัยนั้น เมื่อเกิดเหตุขึ้นทางจังหวัดก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว แต่เมื่อเกินขีดความสามารถที่จังหวัดจะรับมือได้จึงยกระดับการสั่งการเป็นระดับ 3 และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันทำงานแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่กองทัพเปลี่ยนแนวทางแก้ปัญหาโดยหันมาใช้เกเบียน บวกกับการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยทำให้ทุกอย่างราบรื่น และสามารถปกป้องพื้นที่ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้
เชื่อว่าขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้แล้ว ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำ เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมีมากในช่วงท้ายเขื่อน ตั้งแต่ใต้จังหวัดนครสวรรค์ลงมา คาดว่ามวลน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่นๆ มากนัก และระดับน้ำน่าจะลดลงใน 2 วัน
ทั้งนี้ ส่วนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเนั้นมื่อเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จะเร่งทำความสะอาดและสำรวจความเสียหายต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงมือประกอบอาหารเมนูผัดกะเพรา พร้อมทั้งแจกจ่ายให้ประชาชนผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพให้ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังได้เดินลุยน้ำเข้าไปตรวจดูสถานการณ์ยังจุดที่พนังกั้นน้ำพังเสียหายจนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีอีกด้วย