ครม.อนุมัติ 3.9 พันล้านคลอด 4 มาตรการเพื่อรับมือน้ำท่วม สั่งล็อกพื้นที่ 2.1 ล้านไร่ทำแก้มลิง มั่นใจช่วยตัดน้ำได้กว่า 5 พันล้านลบ.ม. ก่อนเข้ากรุง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณในส่วนการป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,900 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1. การอนุมัติงบประมาณ 3,200 ล้านบาท เพื่อดำเนินการสร้างเขื่อนป้องกันนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ซึ่งมีแรงงานประมาณ 2 แสนคน มีมูลค่าการส่งออก 1 ใน 3 ของยอดรวมการส่งออกทั้งหมด โดยจำนวนเงินนี้เป็นการออกเงินให้จำนวน 2 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งทำให้อีกไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่งดังกล่าวจะมีเขื่อนรอบนิคมฯ ป้องกันน้ำท่วมได้
2. การอนุมัติพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ 2 ล้าน 1 แสนไร่ ซึ่งสามารถเก็บกักน้ำได้ 5,100 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 9 แสนไร่ นอกเขตชลประทาน 1 ล้าน 2 แสนไร่ ทั้งนี้ พื้นที่นอกเขตชลประทานที่กำหนดให้เป็นพื้นที่รับน้ำนั้นอยู่ในพื้นที่ต่ำมากซึ่งหมายความว่าปกติจะประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว ขณะที่เกษตรกรเองก็ไม่เพาะปลูกในฤดูน้ำ ส่วนงบประมาณที่จัดในส่วนพื้นที่รับน้ำรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 610 ล้านบาท โดยเป็นการดำเนินการปรับโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถควบคุมน้ำได้ทั้งเข้าและออก
3. ได้มีการแบ่งงานรัฐมนตรีได้ไปติดตามควบคุมการจัดการน้ำเป็นรายจังหวัด เพื่อบริหารทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเป็นการมอบพื้นที่ตามความเหมาะสม ความถนัดส่วนตน ในฐานะประธาน กบอ. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ รมว.หาดไทย และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะดูภาพรวมในทุกพื้นที่
และ 4. อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะไปติดตามการเตรียมความพร้อมเป็นรายจังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือตอนบนถึงภาคกลางตอนล่าง ทั้งความพร้อมระบบเตือนภัยการเก็บน้ำ ซับน้ำ ระบายน้ำ ดูระบบปฏิบัติการซิงเกิลคอมมานด์ซึ่งถ้าเป็นไปได้จะมีการสาธิตการสั่งการเพื่อซักซ้อมระบบก่อน
ทั้งนี้ ยืนยันรัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์เกิดขึ้นจริง นายปลอดประสพกล่าวว่า สำหรับการจ่ายเงินชดเชยให้แก่พื้นที่รับน้ำนั้นขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องตัวเลข แต่ในพื้นที่รับน้ำ 1 ล้าน 2 แสนไร่จากพื้นที่ทั้งหมดนั้นเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมอยู่แล้ว และไม่มีการทำการเกษตรหรือดำเนินการใดๆ ดังนั้นคงจะไม่มีการจ่ายในส่วนนี้ คงเหลือแต่พื้นที่ 9 แสนไร่ในเขตชลประทานที่ต้องจ่ายชดเชย
และถ้าจ่ายก็จะดำเนินการตามสัดส่วนพื้นที่ซึ่งมีการแบ่งไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจะมีการบอกแจ้งเป็นช่วงๆ หากมีการใช้พื้นที่ ทั้งนี้ เชื่อว่าปริมาณน้ำในปีนี้จะยังมากอยู่ แต่สามารถบริหารจัดการได้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยืนยันจะไม่เหมือนปีที่แล้วอย่างเด็ดขาด หากจะท่วมก็เป็นแค่การท่วมขังในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น