บุรีรัมย์ - “ดีเอสไอ” ลงพื้นที่สอบปากคำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ 79 ราย หลังร่วมกันบุกร้องถูก เจ้าของ“ลานมัน” พร้อมพวกโกงเงินจำนำมันกว่า 14.5 ล้าน จากที่ผ่านมาแจ้งความและร้องขอความช่วยเหลือหลายหน่วยงานไม่คืบหน้า เชื่อมี จนท.รัฐเกี่ยวข้อง เตรียมชงเป็นคดีพิเศษ ด้านเกษตรกรขู่ปิดถนนกดดันหากไร้ความชัดเจน
วันนี้ (12 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่สอบปากคำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 79 ราย ที่ถูกกลุ่มบุคคลนำชื่อโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลมาแอบอ้างฉ้อโกง ที่ “ลานมันพลายพาโชค” ตั้งอยู่ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ทำให้ไม่ได้รับทั้งใบประทวนและเงินหลังนำมันสำปะหลังเข้าร่วมโครงการมานานกว่า 7 เดือน มูลค่ารวมกว่า 14.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ สำนักนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี แต่จนถึงขณะนี้นานกว่า 3 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับความช่วยเหลือ
จึงร่วมกันเข้าร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเชื่อว่าคดีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเกษตรกรได้นำเอกสารหนังสือรับรองเกษตรกร ใบชั่งนำหนักมันสำปะหลังที่ทางลานมันออกให้ ใบประทวนที่ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ออกให้ และสำเนาใบแจ้งความ มาให้เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ตรวจสอบ พร้อมให้ปากคำทั้งหมด
จากการสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ พบว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะมีมูล พบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยคณะสอบสวนของ ดีเอสไอ จะได้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ดีเอสไอ เพื่อพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐาน
ด้าน พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้เข้าไปร้องเรียนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยตัวเอง เนื่องจากการร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ แล้วไม่ได้รับการช่วยเหลือ และคดีไม่คืบหน้า พร้อมกันนี้กลุ่มเกษตรกรยังได้ร้องขอให้สอบเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เชื่อว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการออกใบประทวนให้กับเกษตรกรบางส่วน เพราะเกษตรกรมั่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการฉ้อโกงครั้งนี้
ขณะที่นางวรรณวิษา ทองเรือง อายุ 41 ปี หนึ่งในเกษตรกร อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.2555 กลุ่มเกษตรกรทั้งหมดได้นำมันสำปะหลังไปจำนำตามโครงการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยเกษตรกรที่นำมันไปจำนำ ในช่วงแรกจะได้รับใบประทวน แต่ยังมีเกษตรกรจำนวนมากที่ไม่ได้รับใบประทวน แต่เมื่อใกล้สิ้นสุดโครงการวันที่ 28 มิ.ย.ทางลานมันพลายพาโชค ได้แจ้งว่า ไม่ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำ จึงไม่สามารถออกใบประทวนให้ได้
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลานมันพลายพาโชค ได้ระบุว่า ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำ และมีเจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ (อคส.) เซ็นรับรองว่าได้ร่วมโครงการ ซึ่งทำให้เกษตรกรไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำ
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งความดำเนินคดี และได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ นายกรัฐมนตรีและรัฐสภา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ หรือรัฐบาลจะมีส่วนรับผิดชอบหรือไม่
จนล่าสุดได้ไปร้องเรียนยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากหลักฐานในใบประทวนที่เกษตรกรบางรายได้รับมีชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหากยังไม่มีความชัดเจนก็จำเป็นต้องชุมนุมปิดถนนเรียกร้องจนถึงที่สุด เพราะเราไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจากกรณีดังกล่าว ได้มี 2 ใน 4 ผู้ร่วมกระทำผิด คือ นางสันตนา และนายพาย เสภา สองสามีภรรยา เจ้าของลานมันพลายพาโชค ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พร้อมยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว ส่วน นางอภิญญา และนายจักรพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี
