บุรีรัมย์ - เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 2 อำเภอบุรีรัมย์ และโคราช รวมตัวยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือ กมธ.เกษตร สภาผู้แทนฯ หลังนำมันสำปะหลังไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล ถูกเบี้ยวไม่จ่ายเงินกว่า 16.8 ล้าน รวม 82 ราย พร้อมแห่เข้าแจ้งความเอาผิดเจ้าของลานมัน “พลายพาโชค” อ.เสิงสาง โคราช ข้อหา “ฉ้อโกง” วอนรัฐบาลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในเขตพื้นที่อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ และ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ร่วม 100 คน นำโดยนายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากร แกนนำเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปรวมตัวที่ อบต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย (พท.) กรรมาธิการการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร และประธานอนุคณะกรรมการจับทุจริตจำนำข้าว
หลังนำมันสำปะหลังไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำหรือแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังของรัฐบาล ที่ลานมัน “พลายพาโชค” ตั้งอยู่ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ไม่ได้รับใบประทวนและเงินจากทางลานมันนานร่วม 3 เดือน รวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 16.8 ล้านบาท โดยทางลานมันได้รับปากจะมาจ่ายเงินให้เกษตรกรภายในวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่กลับเบี้ยวไม่มาตามสัญญา เกษตรกรจึงเชื่อว่าถูกหลอกจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว
พร้อมกันนี้ เกษตรกรยังได้ร้องขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินตามจำนวนโดยเร็ว เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้ราคาผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่กลับมาถูกหลอกซ้ำเติมเกษตรกรให้ได้รับความเดือดร้อน
นายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากร แกนนำเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เกษตรกรได้นำผลผลิตมันสำปะหลังไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำหรือแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ยังลานมัน “พลายพาโชค” ตั้งอยู่ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากลานมันดังกล่าวอ้างว่าเป็นสาขาที่มาเปิดรับจำนำมันเพื่อส่งให้โรงแป้งแห่งหนึ่ง โดยให้ราคากิโลกรัมละ 2.70-2.80 บาทตามโครงการฯ อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลารอคิว และยังหักสิ่งเจือปนน้อย หรือบางรายก็ไม่ถูกหักเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งเลย
ช่วงแรกเกษตรกรที่นำมันไปเข้าร่วมโครงการฯ ก็ได้รับใบประทวนเพื่อนำไปเป็นหลักฐานกู้เงินกับ ธ.ก.ส. เหมือนกับลานมันอื่นที่เข้าร่วมโครงการฯ จึงทำให้เกษตรกรเชื่อใจ แต่พอระยะหลังตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา เกษตรกรที่นำมันไปจำนำกลับไม่ได้รับใบประทวนมีเพียงใบชั่งน้ำหนักที่ทางลานมันออกให้เท่านั้น พร้อมอ้างว่าจะออกให้ในภายหลัง
จนขณะนี้ได้สิ้นสุดโครงการแล้ว เกษตรกรกลับไม่ได้รับใบประทวนทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เมื่อไปสอบถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงทั้งยังทำทีว่าจะสำรองเงินสดจ่ายให้เกษตรกรก่อนรายละ 20,000-50,000 บาท ทั้งที่ยอดเงินจริงที่เกษตรกรนำผลผลิตไปจำนำที่จะได้รับเฉลี่ยรายละ 100,000-500,000 บาท
ขณะนี้มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนลงชื่อทั้งสิ้น 82 ราย รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้นที่เกษตรกรยังไม่ได้รับ 16,893,498 บาท เกษตรกรจึงได้มารวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือจากทาง ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าว
จากกรณีที่เกิดขึ้น เกษตรกรเชื่อว่าน่าจะถูกลานมันดังกล่าวโกง ประกอบกับเมื่อตรวจสอบไปภายหลังพบว่าลานมันดังกล่าวไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จึงได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าของลานมันดังกล่าว
ด้านนายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย (พท.) กรรมาธิการการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังรับหนังสือร้องก็ได้ให้เกษตรกรผู้เสียหายที่มายื่นหนังสือร้องเรียนไปแจ้งความที่ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเอาผิดเจ้าของลานมันและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” จากที่ก่อนหน้านี้เกษตรกรเพียงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น พร้อมจะนำเรื่องดังกล่าวไปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐบาล เร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวโดยเร็วด้วย