ระยอง-นายกฯ อบจ.ระยอง ฉุนโต้เดือด หลังอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งดำเนินคดีการก่อสร้างท่าเรือบนเกาะเสม็ด ทั้งๆ ที่สร้างรายได้ เผยที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ทำประโยชน์อะไรบ้าง โดยมีทั้งปัญหา และผลประโยชน์
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ว่า มอบให้นายอาคม น้ำคำ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อ.เมืองระยอง เข้าแจ้งความอบจ.ระยอง กับบริษัทพระนครออกแบบและก่อสร้างเพิ่ม ในข้อหาบุกรุกอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และจากนี้ไป กรมอุทยานฯ จะใช้มาตรา 22 ในการรื้อถอนการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยอง โดยติดประกาศให้ทราบ 2 ครั้ง ถ้าไม่ดำเนินการ กรมอุทยานฯ จะรื้อถอนเองนั้น
วันเดียวกัน ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ถนนสุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มอบให้นายอาคม น้ำคำ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง แจ้งความจับ อบจ.ระยอง และบริษัทรับเหมาก่อสร้างฯ นั้น หากแจ้งจับเมื่อไหร่ ตนก็จะแจ้งจับท่าเทียบเรือบนอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ว่า มีการถมทะเลสร้างท่าเทียบเรือ และท่าเทียบเรือบริเวณอ่าวลูกโยนเกาะเสม็ดไม่มีใบอนุญาต และไม่มีการทำอีไอเอเช่นกัน
สำหรับกรณีจะรื้อท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดของ อบจ.ระยอง ไม่ต้องมารื้อ เพราะตนสั่งปิดท่าเทียบเรือห้ามใช้แล้ว ความจริง นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช น่าจะให้เกียรติ และขอบคุณตน เพราะหารายได้จากการเก็บค่าเหยียบย่ำแผ่นดินเกาะเสม็ดมาเป็นเวลานานหลายสิบปี เป็นเงินนับพันล้านบาท แต่เคยทำอะไรให้เกาะเสม็ด และคนระยองบ้าง หากโปร่งใสจริงขอให้ชี้แจงว่าเอาเงินไปทำอะไรบ้าง เพราะเงินจำนวนมหาศาลก้อนนี้เป็นเงินนอกงบประมาณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ไม่เคยอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใดบนเกาะเสม็ดแม้แต่รายเดียว คือ จะให้อยู่แบบสีเทา
นายปิยะ กล่าวอีกว่า ตนได้นำหลักฐานเอกสารที่ได้รับอนุญาตจากหลายหน่วยงานไปยื่นขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติฯ สร้างท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดตั้งแต่ปี 2551 จนถึงขณะนี้ ปี 2555 เพิ่งได้รับคำตอบว่าต้องทำอีไอเอ ซึ่งสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่าไม่ต้องจัดทำอีไอเอ เนื่องจากได้รับอนุญาตก่อนมีการประกาศ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2552 กรมเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาระยอง อนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำแม่น้ำ ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส เพื่อทดแทนท่าเทียบเรือที่มีอยู่เดิม ซึ่งมีขนาดเล็กไม่เพียงพอต่อการขนส่ง และการบริการนักท่องเที่ยวที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นในแต่ละปี และมีสภาพชำรุด ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
ส่วนที่ระบุว่า สร้างท่าเทียบเรือล่วงล้ำลำน้ำถึง 4,320 ตารางเมตร โดยอ้างกฎหมายกำหนดให้พื้นที่ท่าเทียบเรือขนาดตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไปต้องทำอีไอเอ มติคณะรัฐมนตรี 2543 กำหนดให้อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ (แรมซาไซร์ ) และมติ ครม. 3 พฤศจิกายน 2552 ให้ทำอีไอเอ ในโครงการใดๆ ที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของพื้นที่ ตนได้รับอนุญาตก่อนมีการประกาศ และก็ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าฯ สร้างท่าเรือขนาด 500 ตันกรอสแล้ว
นายปิยะ กล่าวว่า วันนี้ขยะล้นเกาะเสม็ดกองเป็นภูเขา นี่หรือที่ประกาศว่าเป็นเขตอุทยานฯ คนระยองต้องเอาวิกฤตให้เป็นโอกาส ช่วยทวงถามนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำไมไม่เข้าไปจัดการขยะ ผู้ประกอบการรีสอร์ตทุกแห่งไม่มีใครถูกต้อง แล้วทำไมไม่ทำให้ถูกต้อง หรือกลัวอะไร คนระยองอยากเห็นรูปร่างหน้าตาใบอนุญาตของกรมอุทยานฯ ตนก็อยากเห็นเหมือนกัน เพราะไม่เคยเห็นจะได้เป็นบุญตา ได้เห็นเมื่อไหร่จะติดประกาศและกราบไหว้ทุกวัน แต่กลับมากล่าวหาวตนเป็นหน่วยราชการทำไมไม่ทำให้ถูกต้อง