นครพนม - ม็อบชาวไร่ยาสูบนครพนม 300 คน ลุกฮือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยาสูบฉบับใหม่-อ้างลิดรอนสิทธิในการประกอบอาชีพทำไร่ยาสูบ ขู่หากไม่แก้ไขส่งเสริมให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ จะรวมตัวต่อสู้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 6 ก.ย. 55 ที่หน้าศาลากลาง จ.นครพนม มีกลุ่มเกษตรกรชาวไร่ที่ปลูกยาสูบกว่า 300 คน นำโดยนายประธาน พันสะตะ ตัวแทนชาวไร่ 5 สถานีใบยาสูบในพื้นที่ จ.นครพนม ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม กรณีไม่เห็นด้วยกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการบริโภคยาสูบของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
นายประธานกล่าวว่า ภายหลังชาวไร่ยาสูบในพื้นที่กว่า 3,000 คน ได้อ่านศึกษาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว หากประกาศใช้เป็น พ.ร.บ.เมื่อไหร่ ชาวไร่และพวกตนต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอน เนื่องจากในพื้นที่ จ.นครพนม มีพื้นที่ปลูกยาสูบกว่า 5 อำเภอ และมีผลผลิตที่จะป้อนให้โรงงานยาสูบปีละประมาณ 300 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ หากรัฐบาลออกกฎหมายห้ามตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แล้วชาวไร่ยาสูบจะปลูกยาขายให้ใคร และจะหารายได้จากไหนมาเลี้ยงครอบครัว รวมทั้งใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้ยืมมา
นายประธานระบุด้วยว่า หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯ กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รับผิดชอบหาอาชีพใหม่มาทดแทนให้พวกตนและชาวไร่ยาสูบได้หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาโรงงานยาสูบนำเงินรายได้ให้รัฐบาลนำไปบริหารประเทศเป็นลำดับต้นๆ หากรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนพวกตนจะขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ยังเป็นการลิดรอนสิทธิในการประกอบอาชีพชัดเจน
ภายหลังตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมปราศรัยเสร็จ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม แต่ผู้ว่าฯ ติดราชการ นายยงยุทธ นุกิจรังสรรค์ รอง ผวจ.นครพนม จึงออกมารับเรื่องไว้แทน จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปปราศรัยที่หน้า อบจ.นครพนม และได้ยื่นหนังสือคัดค้านถึงความเดือดร้อนดังกล่าว โดยมีนางสุจินดา ศรีวรขาน รองนายก อบจ.นครพนม ออกมารับเรื่องไว้ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกลับภูมิลำเนา