พิษณุโลก - นายแพทย์สาธารณสุขพิษณุโลกเตือน “บุหรี่แบ่งขายเป็นมวน” ผิดกฎหมาย ปรับ 2 หมื่น ตีแผ่ผลสำรวจพบร้านค้าหลัง ม.นเรศวรแบ่งขายบุหรี่เป็นมวนกว่าครึ่ง แถมเกือบทั้งหมดขายให้นักศึกษาแบบไม่ดูบัตรประชาชน นัดรณรงค์ 31 พฤษภาคมวันงดบุหรี่โลก ก่อนที่ผู้หญิงและเด็กจะเป็นลูกค้าหน้าใหม่ของบริษัทผู้ผลิตบุหรี่
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่โรงแรมวังแก้ว จ.พิษณุโลก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ และหัวหน้าราชการที่สำคัญ ได้ร่วมกันแถลงผลงานหรือแผนการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา
นายแพทย์บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้ระบุว่า ในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 55 นี้ สาธารณสุขพิษณุโลกจะร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา และเครือข่ายงดเหล้า จัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก ตั้งแต่เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้คนลด เลิกสูบบุหรี่
นายแพทย์บุญเติมเผยอีกว่า ปัจจุบันบริษัทบุหรี่กำลังมีความพยายามชักจูงกลุ่มผู้หญิงและเด็กเยาวชนให้มาสนใจทดลองสูบบุหรี่มากขึ้น เพราะหากเป็นลูกค้าแล้วจะใช้บริการต่อไปในระยะยาว
ขณะเดียวกัน สสจ.พิษณุโลกได้นำวารสารรักษ์สุขภาพของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ฉบับที่ 24 ปีที่ 3 ประจำเดือนพฤษภาคม 2555 หน้าปก พาดหัว “31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก จับตาเฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมบุหรี่” แจกจ่ายแก่สื่อมวลชน
ทั้งนี้ พบว่าเนื้อหาที่ตีพิมพ์ในวารสารฉบับนี้ได้ระบุไว้ว่า ร้านค้ารอบมหาวิทยาลัยนเรศวรขายบุหรี่เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้ขายแยกมวนเกินครึ่ง และขายโดยไม่สนใจบัตรประชาชนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
พร้อมกับระบุอีกว่า จากการสำรวจเบื้องต้นในการขายบุหรี่รอบมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนข้างและหลังมหาวิทยาลัยในเดือนพฤศจิกายน 2552 พบว่า ร้านค้าที่ขายบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 68.3 จากร้านค้าทั้งหมดในบริเวณหลังและข้าง ม.นเรศวร และพบว่าร้อยละ 56.1 ของร้านค้าบุหรี่ ขายบุหรี่แยกมวน ร้อยละ 97.6 ขายแก่นิสิตนักศึกษาโดยไม่ดูบัตรประชาชน พบร้านที่ตั้งโชว์บุหรี่คิดเป็นร้อยละ 19.5
ขณะที่จังหวัดพิษณุโลกมีจำนวนร้านค้าที่ขออนุญาตขายสุราและบุหรี่ ปี 54 รวมทั้งจังหวัด 7,073 แห่ง โดยอำเภอเมืองมีร้านค้าจำหน่ายมากที่สุด 2,020 แห่ง รองลงมาคือ อำเภอวังทอง และพรหมพิราม โดยอำเภอบางกระทุ่มมีร้านค้าน้อยที่สุด 315 แห่ง และหากสำรวจข้อมูลความจำเป็นพื้นที่ฐานระดับอำเภอปี 54 พบว่าอำเภอที่คนในครัวเรือนสูบบุหรี่สูงกว่าอำเภออื่น 3 อันดับแรกคือ อ.พรหมพิราม อ.เนินมะปราง และ อ.นครไทย
สสจ.พิษณุโลกยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการขายบุหรี่หลายคนสอบถามว่า การขายบุหรี่เป็นมวนผิดกฎหมายหรือไม่ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า บุหรี่หรือยาสูบนั้นมีกฎหมาย 2 ฉบับควบคุมอยู่ คือ พ.ร.บ.ยาสูบ 2509 ซึ่งจุดประสงค์ของกฎหมายต้องการควบคุมการผลิตยาสูบ เพื่อให้รัฐได้เก็บค่าธรรมเนียมและภาษีจากบุหรี่ และร้านค้าที่จะจำหน่ายบุหรี่นั้นจะต้องได้รับอนุญาตในการจำหน่ายเสียก่อนจึงจะขายบุหรี่ได้
สำหรับ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 เป็นกฎหมาย มีเจตนารมณ์ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการบริโภคยาสูบ เพราะควันบุหรี่ทำให้สุขภาพผู้สูบและคนใกล้ชิดจะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้แก่ โรคหลอดเลือดในสมอง เส้นเลือดแดงโป่งพอง เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดแข็งตามแขนขา โรคถุงลมโป่งพอง มะเร็งในกล่องเสียง ช่องปากและคอ หลอดลม ปอดและกระเพาะอาหาร ฯลฯ
ทำให้ พ.ร.บ.ควบคุม 2535 กำหนดให้ผู้นำเข้าแสดงฉลากคำเตือนก่อนออกจากแหล่งผลิตหรือก่อนเข้ามาจำหน่ายในประเทศ โดยพิมพ์รูปภาพบนซองซิกาแรต หรือบุหรี่ซิการ์ อาทิ “สูบแล้วถุงลมพองตาย” และยังกำหนดห้ามพิมพ์ข้อความที่อาจเกิดความเข้าใจผิด เช่น mild หรือ low tar
ดังนั้น การที่ขายแบ่งบุหรี่ขายเป็นมวนให้แก่ลูกค้า จึงเป็นการกระทำความผิดฐานขายบุหรี่ โดยไม่มีฉลากคำเตือน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
“การขายบุหรี่ที่ถูกกฎหมายต้องขายทั้งซอง ดังนั้น สสจ.พิษณุโลกจึงขอความร่วมมือเจ้าของร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย”