กรุงเก่าเตือน ปชช.ระวังน้ำท่วม หลังชลประทานเริ่มผันน้ำ

พระนครศรีอยุธยา - หลายหน่วยงานในพระนครศรีอยุธยา เริ่มตื่นตัวเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังชลประทานพระนครศรีอยุธยาเริ่มผันน้ำบ้างแล้ว แต่ยังยืนยันไม่กระทบประชาชน ด้านเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 พระนครศรีอยุธยา แจ้งเตือนผู้ประกอบการเดินเรือระมัดระวังน้ำเชี่ยว สะพาน ตอม่อสะพาน หวั่นเรือล่ม ขณะที่ผู้ว่าฯ กรุงเก่าสั่งเร่งดูดทรายลอกแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (6 ก.ย.) นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ต้องผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตอนนี้ระบายอยู่ที่ 815 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งในเวลาเดียวกัน น้ำก็ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ มาที่ 945 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติของช่วงฤดูนี้ และก็จะทำการระบายเรื่อยๆ เพราะมีฝนตก มีหย่อมความกดอากาศต่ำ ทั้งบริเวณเหนือ และท้ายเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเหนือเขื่อนเจ้าพระยา

สำหรับการแจ้งเตือนทางชลประทานได้ประสานกับท้องถิ่น ทั้งอำเภอ เทศบาล อบต. เพื่อแจ้งเตือนแก่ชาวบ้านว่า ในช่วงนี้จะมีระดับน้ำเพิ่มเข้ามา แต่เพิ่มในลักษณะที่ค่อยๆ เพิ่มเป็นปกติ แต่ถ้ามีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นผิดปกติก็เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้

ด้านนายรัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตอนนี้ทางกรมเจ้าท่าได้แจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการเดินเรือต่างๆ ทางข่ายวิทยุสื่อสารที่เรามีอยู่ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ให้ระมัดระวังเรือดึงท้ายเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และให้ระมัดระวังช่วงสะพาน ตอม่อสะพาน ซึ่งตอนนี้ได้เสนอขึ้นไปยังกรมแล้วว่าจะเสริมยางที่จะกันตอม่อสะพาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหคุ แต่ช่วงนี้ยังถือว่าระดับการไหลของน้ำยังไม่น่ากลัว ยังสามารถเดินเรือได้ปกติ เพียงแต่ความเร็วของน้ำมีเพิ่มมากขึ้น

ทางด้าน ดร.วิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาโดยใช้เรือดูดทรายขนาดใหญ่ในช่วงแรก 4 ลำ ณ ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ เป็น 5 ลำ เพื่อที่จะทำการขุดลอกแม่น้ำให้เร็วขึ้นก่อนน้ำจะมา หากเป็นไปอย่างที่ได้กำหนดไว้สามารถเพิ่มปริมาตรการไหลของน้ำจากปัจจุบันระบายอยู่ที่ 500 ลบ.ม./วินาที คิดเป็นร้อยละ 20 และเพิ่มพื้นที่หน้าตัดที่รองรับปริมาตรน้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2,098,596.38 ลบ.ม.

ด้านนายชันนันท์ วงษ์จินดา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพตกปลาใต้สะพานปรีดีธำรงค์ ซึ่งแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน กล่าวว่า ตนได้มานั่งตกปลากับเพื่อนๆ เป็นประจำ รู้สึกว่าช่วง 4-5 วันนี้ปริมาณน้ำมีระดับเพิ่มขึ้น 10-15 เซนติเมตร คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการระบายน้ำ และฝนตกอย่างต่อเนื่อง แต่ปกติช่วงต้นเดือนนี้ เมื่อปี 2554 น้ำเริมท่วมเลยฐานตอม่อสะพานแล้ว แต่ปีนี้ยังมองเห็นฐานตอม่อสะพานอยู่