ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ด้านบริการทางการแพทย์ หลังสร้างรายได้สูงสุดในฐานะโรงพยาบาลเอกชนส่วนภูมิภาค และ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโรงพยาบาลที่ทำรายได้สูงสุดทั่วประเทศ ล่าสุด ทุ่มงบอีก 220 ล้านบาท สร้างความแข็งแกร่งด้านการรักษาผู้ป่วย และเพิ่มบุคลากร 20 ภาษา หวังยกระดับการแข่งขันรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 3 และผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เผยถึงนโยบายในการบริหารงานช่วงครึ่งปีหลัง 2555 ว่าจากความมุ่งมั่น และทุ่มเทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะการเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางแหล่งการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก จึงได้มีการพัฒนาทั้งบุคลากร และงานบริการทางการแพทย์ ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ และปัจจุบัน โรงพยาบาลฯ มีบุคลากรด้านภาษาที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ ถือเป็นการบูรณาการทางการแพทย์ที่ครบวงจรอย่าง ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเกิดความประทับใจ
และจากการพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์อยู่ตลอดเวลา ทำให้โรงพยาบาลฯ ได้รับการยอมรับด้านประสิทธิภาพการรักษา โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในประเทศไทย
ซึ่งผลดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 พบว่า ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้ และจำนวนผู้ใช้บริการ โดยในส่วนรายได้คิดเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 12-14% สูงกว่าการเติบโตที่คาดหมายไว้เดิมที่ 13% และคาดว่า จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16% ของรายได้ทั้งหมด หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 3,200 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ 60% มาจากกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติ และอีก 40% มาจากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย
“สัดส่วนผู้ป่วยชาวต่างชาติ ประกอบด้วย ผู้ป่วยชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพัทยา 60% นักท่องเที่ยวที่มีอาการเจ็บป่วยขณะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 30% และนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เดินทางเข้ามารักษากับโรงพยาบาลโดยตรงประมาณ 10% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาพยาบาลมากที่สุด คือ รัสเซีย รองลงมา คือ อังกฤษ เยอรมนี สแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ ตะวันออกกลาง โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”
นายแพทย์พิชิต ยังกล่าวถึงแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2555 ว่า ได้ ทุ่มงบประมาณ 220 ล้านบาท พร้อมเพิ่มบุคคลากรด้านภาษา หรือล่าม อีก 20 ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ นอกจากนี้ โรงพยาบาลฯ ยังเตรียมเปิดบริการคลินิกรักษาเด็กทารกแรกเกิดที่มีอาการป่วยขั้นรุนแรง และคลินิกรังสีร่วมรักษาที่ใช้การ X-ray รักษาผู้ป่วยแทนการผ่าตัด รวมถึงการลงทุนด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุดด้านการรักษา
จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อยกระดับด้านงานบริการทางการแพทย์แบบครบวงจร พร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบไอที และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ร่วมกับเครื่องมือแพทย์ โดยนำหุ่นยนต์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาช่วยในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเหลือแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ด้วยระบบการสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถปรากฏภาพ เสียง และการขยายเข้า-ออกของการมองเห็นได้อย่างชัดเจน
และการนำหุ่นยนต์มาใช้ในเรื่องการจัดยา และบรรจุยาอัตโนมัติ ซึ่งมีความแม่นยำสูง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถรอรับยาได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น แผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 ยังมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น ชาวรัสเซีย ตะวันออกกลาง โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เน้นการรักษาด้านทันตกรรม การผ่าตัดที่สามารถรอได้ การตรวจสุขภาพ และโรคอื่นๆ ขณะที่กลุ่มผู้ใช้บริการชาวออสเตรเลีย จะเน้นเรื่องศัลยกรรมตกแต่งความงาม และความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มประกันต่างประเทศอีกด้วย
ที่สำคัญ ยังเตรียมใช้งบประมาณอีก 60 ล้านบาท ในการเดินหน้าประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทางหนังสือพิมพ์ นิตยสารการแพทย์ อินเทอร์เน็ต โซเซียลมีเดียการส่งเอสเอ็มเอส ป้ายโฆษณา เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร และให้ความรู้ด้านการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องแก่ประชาชน