ททท.ผุดงานเทรดโชว์ด้านสุขภาพครั้งแรก เปิดเวทีเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจาก 18 ประเทศทั่วโลกรวม 88 บริษัท ด้านภาคเอกชนตบเท้าร่วมออกบูทกว่า 110 ราย ชี้ บริการทางการแพทย์ด้านทันตกรรม ศัลยกรรม และรักษาโรคเรื้อรังสุดฮอต
วันนี้ (11 ก.ย.) ในพิธีเปิดงาน Thailand Medical & Wellness Tourism Trade FAM Trip 2012 จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ไทย กล่าวว่า แนวโน้มชาวต่างชาตินิยมที่จะเดินทางมารับบริการด้านทันตกรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมของตลาดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10% และจากผลสำรวจของปี 2553 พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เดินทางมาเอเชีย ประเทศไทยมีส่วนแบ่งถึง 40%
จุดแข็งของประเทศไทยในด้านสุขภาพคือ มีบริการที่หลากหลาย บุคคลากรมีจิตรักการบริการ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวรองรับระหว่างพักฟื้นก่อนเดินทางกลับ โดยบริการที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้ามารับบริการ ได้แก่ ทันตกรรม ศัลยกรรมเสริมความงาม รวมไปถึงการเข้าคอร์สลดความเครียดด้วยการนั่งสมาธิ คู่ไปกับการฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม
นายวิโรจน์ พวงโลก ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทในเครือโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ปี 2554 ทางโรงพยาบาลมีชาวต่างชาติมาใช้บริการคิดเป็นสัดส่วน 10% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ตลาดหลักได้แก่ออสเตรเลีย โดยทางโรงพยาบาลตั้งเป้าหมายผู้ใช้บริการชาวต่างชาติจะเติบโตปีละ 10-15%
ซึ่งทางโรงพยาบาลวางแผนทำตลาดเชิงรุกด้วยการออกโรดโชว์ต่างประเทศและในประเทศ รวม 10 ครั้งต่อปี สำหรับบริการที่ชาวออสเตรเลียมาใช้บริการคือ ทำศัลยกรรม และทันตกรรม ส่วนชาวตะวันออกกลางจะมารักษาโรคเรื้อรัง และผ่าตัดใหญ่
***ททท.เปิดเวทีผู้ซื้อพบผู้ขาย
อย่างไรก็ตาม นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า งานไทยแลนด์ เมดิคัลฯ ททท.ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเปิดเวทีให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้เจรจาธุรกิจ โดยงานนี้ ททท.ได้เชิญตัวแทนขายธุรกิจเพื่อสุขภาพและบริษัทประกัน รวม 88 บริษัท จาก 18 ประเทศทั่วโลกมาอัปเดตข้อมูลสินค้าและบริการทางด้านสุขภาพของประเทศไทย พร้อมเจรจาธุรกิจ และร่วมประชุม ซึ่งมีผู้ประกอบการด้านบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของไทยกว่า 110 ราย ได้แก่ โรงพยาบาล สปา นวด และบริการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมออกบูทแนะนำสินค้าและบริการ
ททท.คาดหวังงานนี้จะเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านธุรกิจบริการด้านสุขภาพของไทย ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในอาเซียน ซึ่งเฉลี่ยต่อปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพราว 2 ล้านคนและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเมดิคัลทัวริสซึมนี้จะช่วยผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยให้ไปถึง 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งตลาดทัวร์สุขภาพที่ ททท.จะเร่งบุกคือ จีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง ส่วนตลาดยุโรป และอเมริกาเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมาก
***5 แหล่งเมืองท่องเที่ยวเหมาะลงทุน
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนด้านธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คือ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย และกรุงเทพฯ เพราะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มุ่งเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพจำนวนมาก หากจะพูดถึงโอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเอเชีย เพราะเป็นประเทศที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลไทยก็ได้รับมาตรฐาน JCI จำนวนสูงสุดในเอเชีย ส่วนสปาก็ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันระดับโลก ส่วนการเปิด AEC ในปี 2558 คาดว่ากลุ่มประเทศ CLMV จะเดินทางเข้ามารักษาสุขภาพในไทยมากขึ้นและเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
วันนี้ (11 ก.ย.) ในพิธีเปิดงาน Thailand Medical & Wellness Tourism Trade FAM Trip 2012 จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ไทย กล่าวว่า แนวโน้มชาวต่างชาตินิยมที่จะเดินทางมารับบริการด้านทันตกรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมของตลาดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10% และจากผลสำรวจของปี 2553 พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เดินทางมาเอเชีย ประเทศไทยมีส่วนแบ่งถึง 40%
จุดแข็งของประเทศไทยในด้านสุขภาพคือ มีบริการที่หลากหลาย บุคคลากรมีจิตรักการบริการ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวรองรับระหว่างพักฟื้นก่อนเดินทางกลับ โดยบริการที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้ามารับบริการ ได้แก่ ทันตกรรม ศัลยกรรมเสริมความงาม รวมไปถึงการเข้าคอร์สลดความเครียดด้วยการนั่งสมาธิ คู่ไปกับการฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม
นายวิโรจน์ พวงโลก ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทในเครือโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ปี 2554 ทางโรงพยาบาลมีชาวต่างชาติมาใช้บริการคิดเป็นสัดส่วน 10% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ตลาดหลักได้แก่ออสเตรเลีย โดยทางโรงพยาบาลตั้งเป้าหมายผู้ใช้บริการชาวต่างชาติจะเติบโตปีละ 10-15%
ซึ่งทางโรงพยาบาลวางแผนทำตลาดเชิงรุกด้วยการออกโรดโชว์ต่างประเทศและในประเทศ รวม 10 ครั้งต่อปี สำหรับบริการที่ชาวออสเตรเลียมาใช้บริการคือ ทำศัลยกรรม และทันตกรรม ส่วนชาวตะวันออกกลางจะมารักษาโรคเรื้อรัง และผ่าตัดใหญ่
***ททท.เปิดเวทีผู้ซื้อพบผู้ขาย
อย่างไรก็ตาม นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า งานไทยแลนด์ เมดิคัลฯ ททท.ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเปิดเวทีให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้เจรจาธุรกิจ โดยงานนี้ ททท.ได้เชิญตัวแทนขายธุรกิจเพื่อสุขภาพและบริษัทประกัน รวม 88 บริษัท จาก 18 ประเทศทั่วโลกมาอัปเดตข้อมูลสินค้าและบริการทางด้านสุขภาพของประเทศไทย พร้อมเจรจาธุรกิจ และร่วมประชุม ซึ่งมีผู้ประกอบการด้านบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของไทยกว่า 110 ราย ได้แก่ โรงพยาบาล สปา นวด และบริการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมออกบูทแนะนำสินค้าและบริการ
ททท.คาดหวังงานนี้จะเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านธุรกิจบริการด้านสุขภาพของไทย ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในอาเซียน ซึ่งเฉลี่ยต่อปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพราว 2 ล้านคนและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเมดิคัลทัวริสซึมนี้จะช่วยผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยให้ไปถึง 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งตลาดทัวร์สุขภาพที่ ททท.จะเร่งบุกคือ จีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง ส่วนตลาดยุโรป และอเมริกาเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมาก
***5 แหล่งเมืองท่องเที่ยวเหมาะลงทุน
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนด้านธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คือ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย และกรุงเทพฯ เพราะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มุ่งเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพจำนวนมาก หากจะพูดถึงโอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเอเชีย เพราะเป็นประเทศที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลไทยก็ได้รับมาตรฐาน JCI จำนวนสูงสุดในเอเชีย ส่วนสปาก็ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันระดับโลก ส่วนการเปิด AEC ในปี 2558 คาดว่ากลุ่มประเทศ CLMV จะเดินทางเข้ามารักษาสุขภาพในไทยมากขึ้นและเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง