เลย-ส่งผีตาโขนเลยไปแสดงในเทศกาลไทยที่ประเทศเยอรมัน ฉลองสัมพันธ์ไทย-เยอรมัน ฉาวเหตุคณะทัวร์เพิ่มเกินจำเป็น ทั้งละลายงบประมาณรัฐถึงรายละ 1.5 แสนบาทไปใช้เที่ยวส่วนตัว ด้านรองพ่อเมืองเลย แจงใช้งบเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ยันคณะทั้ง 60 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสดงผีตาโขน
จากกรณีที่จังหวัดเลยได้รับคำเชิญจากสถานกงสุลใหญ่ ประจำนครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธรัฐเยอรมัน ให้นำคณะการแสดงศิลปวัฒนธรรมการละเล่นผีตาโขน จังหวัดเลย เข้าร่วมงานเทศกาลไทย ที่เมืองบาด ฮัมบูร์ก เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยกับเยอรมันครบ 150 ปี ในระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2555 นี้
ทั้งนี้นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ออกคำสั่งจังหวัดเลยที่ 2650/2555 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2555 เรื่องการมอบหมายภารกิจการจัดแสดงและนิทรรศการ งานเทศกาลไทยดังกล่าว จังหวัดได้มีคำสั่งแบ่งภารกิจ และมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ และเป็นผู้ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ด้วย
แบ่งคณะเตรียมการจัดการแสดงผีตาโขนจำนวน 28 คน ส่วนใหญ่เป็นนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัด เลขานุการนายก และนักบริหารการคลัง ที่อยู่ในอำเภอด่านซ้าย นอกจากนี้ยังมีเด็กนักเรียนที่จะเป็นผู้แสดงการเต้นผีตาโขนอีก 8 คน โดยมีนายภานุ แย้มศรี เป็นหัวหน้าคณะ
ส่วนกลุ่มที่สองคือ คณะกรรรมการจัดนิทรรศการสินค้าโอทอป และการท่องเที่ยวมีจำนวน 30 คน ส่วนใหญ่เป็นนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีนางสุดสายใจ อรุณโรจน์ปัญญา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลยเป็นหัวหน้าคณะ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ใช้เงินงบประมาณจากองค์กรของตัวเองคนละประมาณ 150,000 บาท ซึ่งคณะผู้จัดไม่มีงบประมาณดูแล ทั้งหมดต้องรับผิดชอบเอง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร และที่พัก เดิมนั้นคณะที่เดินทางไปจะมีเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนไม่เกิน 30 คนเท่านั้น
แต่ไม่ทราบว่าทำไมต้องเพิ่มจำนวนมาอีก 30 คน ส่วนใหญ่ที่เพิ่มเข้ามา ถือว่าแทบจะไม่ส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้เลย อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย กลับไม่มีชื่อเป็นผู้ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวอีกว่า ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีชื่อร่วมคณะบางคนต้องตอบรับด้วยความลำบากใจ เพราะงบประมาณในหน่วยงานมีน้อย ควรประหยัดเงินส่วนนี้ไว้ทำโครงการให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า หลังจากกลับมาแล้วอยากเรียกร้องให้องค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบใช้จ่ายเงินรัฐ เช่น สตง.เข้ามาตรวจสอบด้วย เพราะถือเป็นการนำเงินภาษีประชาชนไปท่องเที่ยวหาความสุขส่วนตัว
ด้านนายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะหัวหน้าคณะ เปิดเผยว่า การได้รับคำเชิญให้นำศิลปวัฒนธรรมไปเผยแพร่ในงานเทศกาลระดับโลก ถือเป็นโอกาสดีในการประชาสัมพันธ์ของประเทศไทย และจังหวัดเลย เพื่อเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศได้รู้จักและเดินทางมาท่องเที่ยว อันจะนำรายได้มาสู่ประชาชน
การเดินทางไปครั้งนี้เป็นโครงการอบรมสัมมนา ดูงานที่จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ไปจำนวนมากนั้น ที่จริงแล้วทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเต้นผีตาโขน การสาธิตการทำของที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขน การจัดนิทรรศการ และเป็นตัวแทนของแต่ละท้องถิ่นนำของดี หรือสินค้าโอท็อปไปแสดงด้วย
เหตุที่ต้องไปหลายวันเพราะ ถือโอกาสให้ผู้บริหารท้องถิ่นได้ศึกษาเรียนรู้จากประเทศที่เจริญกว่า เพื่อนำมาปรับใช้กับท้องถิ่นตัวเอง โดยเฉพาะด้านการจัดการการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องงบประมาณได้ใช้ของแต่ละท้องถิ่นเอง ส่วนผู้ติดตาม เช่น ภรรยา หรือญาติ ต้องออกค่าใช้เอง ไม่ใช้เงินหลวง และอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปเพราะบริษัททัวร์แถมที่นั่งให้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารการเดินทางของคณะดังกล่าวพบว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้จัดการศึกษาดูงานครั้งนี้ มีบริษัทซิลเวอร์สโตนทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เป็นผู้นำเที่ยว ใช้เวลา 8 วัน ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2555 โดยกำหนดโปรแกรมทัวร์ไว้ หลังจากการร่วมงานเทศกาลไทยแล้ว คณะจะได้ท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของทั้ง 3 ประเทศคือ เยอรมัน เบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์
จากกรณีที่จังหวัดเลยได้รับคำเชิญจากสถานกงสุลใหญ่ ประจำนครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธรัฐเยอรมัน ให้นำคณะการแสดงศิลปวัฒนธรรมการละเล่นผีตาโขน จังหวัดเลย เข้าร่วมงานเทศกาลไทย ที่เมืองบาด ฮัมบูร์ก เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยกับเยอรมันครบ 150 ปี ในระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2555 นี้
ทั้งนี้นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ออกคำสั่งจังหวัดเลยที่ 2650/2555 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2555 เรื่องการมอบหมายภารกิจการจัดแสดงและนิทรรศการ งานเทศกาลไทยดังกล่าว จังหวัดได้มีคำสั่งแบ่งภารกิจ และมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ และเป็นผู้ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ด้วย
แบ่งคณะเตรียมการจัดการแสดงผีตาโขนจำนวน 28 คน ส่วนใหญ่เป็นนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัด เลขานุการนายก และนักบริหารการคลัง ที่อยู่ในอำเภอด่านซ้าย นอกจากนี้ยังมีเด็กนักเรียนที่จะเป็นผู้แสดงการเต้นผีตาโขนอีก 8 คน โดยมีนายภานุ แย้มศรี เป็นหัวหน้าคณะ
ส่วนกลุ่มที่สองคือ คณะกรรรมการจัดนิทรรศการสินค้าโอทอป และการท่องเที่ยวมีจำนวน 30 คน ส่วนใหญ่เป็นนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีนางสุดสายใจ อรุณโรจน์ปัญญา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลยเป็นหัวหน้าคณะ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ใช้เงินงบประมาณจากองค์กรของตัวเองคนละประมาณ 150,000 บาท ซึ่งคณะผู้จัดไม่มีงบประมาณดูแล ทั้งหมดต้องรับผิดชอบเอง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร และที่พัก เดิมนั้นคณะที่เดินทางไปจะมีเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนไม่เกิน 30 คนเท่านั้น
แต่ไม่ทราบว่าทำไมต้องเพิ่มจำนวนมาอีก 30 คน ส่วนใหญ่ที่เพิ่มเข้ามา ถือว่าแทบจะไม่ส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้เลย อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย กลับไม่มีชื่อเป็นผู้ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก
แหล่งข่าวรายนี้กล่าวอีกว่า ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีชื่อร่วมคณะบางคนต้องตอบรับด้วยความลำบากใจ เพราะงบประมาณในหน่วยงานมีน้อย ควรประหยัดเงินส่วนนี้ไว้ทำโครงการให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า หลังจากกลับมาแล้วอยากเรียกร้องให้องค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบใช้จ่ายเงินรัฐ เช่น สตง.เข้ามาตรวจสอบด้วย เพราะถือเป็นการนำเงินภาษีประชาชนไปท่องเที่ยวหาความสุขส่วนตัว
ด้านนายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะหัวหน้าคณะ เปิดเผยว่า การได้รับคำเชิญให้นำศิลปวัฒนธรรมไปเผยแพร่ในงานเทศกาลระดับโลก ถือเป็นโอกาสดีในการประชาสัมพันธ์ของประเทศไทย และจังหวัดเลย เพื่อเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศได้รู้จักและเดินทางมาท่องเที่ยว อันจะนำรายได้มาสู่ประชาชน
การเดินทางไปครั้งนี้เป็นโครงการอบรมสัมมนา ดูงานที่จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ไปจำนวนมากนั้น ที่จริงแล้วทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเต้นผีตาโขน การสาธิตการทำของที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขน การจัดนิทรรศการ และเป็นตัวแทนของแต่ละท้องถิ่นนำของดี หรือสินค้าโอท็อปไปแสดงด้วย
เหตุที่ต้องไปหลายวันเพราะ ถือโอกาสให้ผู้บริหารท้องถิ่นได้ศึกษาเรียนรู้จากประเทศที่เจริญกว่า เพื่อนำมาปรับใช้กับท้องถิ่นตัวเอง โดยเฉพาะด้านการจัดการการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องงบประมาณได้ใช้ของแต่ละท้องถิ่นเอง ส่วนผู้ติดตาม เช่น ภรรยา หรือญาติ ต้องออกค่าใช้เอง ไม่ใช้เงินหลวง และอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปเพราะบริษัททัวร์แถมที่นั่งให้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารการเดินทางของคณะดังกล่าวพบว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้จัดการศึกษาดูงานครั้งนี้ มีบริษัทซิลเวอร์สโตนทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เป็นผู้นำเที่ยว ใช้เวลา 8 วัน ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2555 โดยกำหนดโปรแกรมทัวร์ไว้ หลังจากการร่วมงานเทศกาลไทยแล้ว คณะจะได้ท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของทั้ง 3 ประเทศคือ เยอรมัน เบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์
