อุบลราชานี - โรงเรียนเบญจะมะมหาราช โรงเรียนมัธยมชื่อดัง จ.อุบลราชธานี อายุ 115 ปี เปิดรับบริจาคสร้างคนรุ่นใหม่ให้เรียนเก่งและเป็นคนดีของสังคม ประกาศปรับกลยุทธ์การเรียนให้ทันยุคสมัย นำเทคโนโลยีมาใช้เรียนใช้สอน ลดปริมาณนักเรียนให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่อัดแน่นเป็นปลากระป๋องซึ่งเน้นปริมาณไม่เน้นคุณภาพเหมือนที่ผ่านมา
ที่อาคารเกียรติสุรนนท์ โรงเรียนเบญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี ดร.ประยงค์ แก่นลา ผู้อำนวยการโรงเรียน และ ศ.ดร.ประกอบ วิโรจน์กูฏ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียน ร่วมแถลงข่าวการปรับปรุงยกระดับคุณภาพการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ในปีการศึกษา 2555-2558 โดยมีการปรับปรุงเพิ่มสื่อเทคโนโลยีเข้าไปในห้องเรียนจำนวน 80 ห้อง จากจำนวน 102 ห้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนรู้ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการสร้างห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์ เคมี คอมพิวเตอร์ ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ รวมทั้งห้องอาเซียนศึกษาให้เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน ซึ่งโครงการต่างๆ ใช้เงินพัฒนาปรับปรุงราว 119 ล้านบาท โดยเงินที่นำมาใช้จ่ายในโครงการนี้ แบ่งเป็นสองส่วน คือ เงินจากงบประมาณของรัฐบาล และเงินจากการบริจาคที่โรงเรียนระดมทุนจากผู้ปกครองนักเรียนปัจจุบัน เงินบริจาคของศิษย์เก่า เงินบริจาคจากบุคคลทั่วไป โดยไม่มีเงื่อนไขใช้แลกเปลี่ยนต้องรับนักเรียนที่ผู้ปกครองบริจาคเข้าเรียน
เพราะปัจจุบันการรับนักเรียนพิเศษอยู่ภายใต้เงื่อนไขต้องเป็นเด็กที่บิดา มารดา เสียชีวิตจากการไปปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่โรงเรียนมาก่อนเท่านั้น การระดมทุนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนครั้งนี้ โรงเรียนทำอย่างเปิดเผยและผู้บริจาคจะได้รับใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษี
ที่ผ่านมาโรงเรียนเบญจะมะมหาราชเป็นโรงเรียนมัธยมมีชื่อเสียงโด่งดังจากการสร้างคุณงามความดีของศิษย์เก่าที่จบการศึกษาไปแล้ว ทำให้แต่ละปีมีผู้ต้องการฝากบุตรหลานเข้าเรียนต่อจำนวนมาก จึงมีหลักเกณฑ์ใช้คัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อ เพื่อให้เด็กทุกระดับมีโอกาสเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกเป็นเด็กที่มีผู้ปกครองยากจนหรือร่ำรวย
ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนอยู่ระหว่างการศึกษากว่า 4,800 คน โดยลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีมากกว่า 5,400 คน และอนาคตจะมีการลดปริมาณการรับนักเรียนให้น้อยลงอีกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้เรียน โดยห้องเรียนหนึ่งห้องจะมีนักเรียนไม่เกิน 40 คน จากที่เคยมีนักเรียนมากกว่า 60 คน
และสื่อเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ครั้งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพให้นักเรียนเรียนรู้จากครูผู้สอนได้มากขึ้น โดยมีตัวชี้วัดจากการสร้างห้องทดลองเมื่อปีการศึกษา 2554 ที่นักเรียนในชั้นเรียน ห้องทดลองทั้งห้องสามารถทำคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 3.5
ด้าน ศ.ดร.ประกอบ วิโรจนกูฏ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำโรงเรียนกล่าวว่า คณะกรรมการบริหารโรงเรียนให้การสนับสนุนแนวความคิดการปรับปรุงห้องเรียน ซึ่งลดปริมาณนักเรียน แต่ไปเพิ่มด้านคุณภาพในการเรียนรู้ให้มากกว่าอดีต โดยยอมรับว่าการระดมทุนครั้งนี้อาจต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะเป็นการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา
โดยผู้บริจาคต้องไม่มีเงื่อนไขขอรับการตอบแทนคืน แต่เชื่อว่าชาวจังหวัดอุบลราชธานีจะร่วมมือกันสร้างคนรุ่นใหม่ผ่านโรงเรียนที่มีประวัติยาวนานถึง 115 ปีให้เป็นทั้งคนเรียนเก่งและเป็นคนดีของสังคมในเวลาเดียวกันด้วย สำหรับผู้สนใจร่วมบริจาคในโครงการดังกล่าวสามารถติดต่อแสดงความประสงค์ที่งานประชาสัมพันธ์โรงเรียน หมายเลขโทรศัพท์ 0-4524-0683-5