xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิสัยทัศน์ “ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์”นั่งเก้าอี้นายกอบจ.ภูเก็ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไพบูลย์ อุปั้ติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
“เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้” นี้คือสโลแกนของ “ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นคนแรกที่ล้างอาถรรพ์ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยที่ 2 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีอดีตนายกอบจ.ภูเก็ตคนไหน ที่อยู่ได้รับเลือก 2 วาระ วันนี้ ASTV ผู้จัดการ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกอบจ.ภูเก็ต ถึงนโยบายและแนวทางการพัฒนาหลังนั่งเก้าอี้บริหารอบจ.ภูเก็ตต่ออีกสมัย

รู้สึกอย่างไรกับการที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง

ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ทุ่มคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ผมได้กลับเข้ามาอีกครั้ง และขอขอบคุณประชาชนชาวภูเก็ตที่ให้กำลังใจและไว้วางใจให้ผมกลับมารับใช้ประชาชนอีก 4 ปี และผมไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนรักผมได้ทั้งหมด แต่ผมสามารถที่จะรักทุกคนได้” หลังจากนี้ก็จะตั้งใจทำงานเพื่อทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานต่อไป
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกอบจ.ภูเก็ต ท่ามกลางกองเชียร์ในวัีนลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.สมัยที่ 2
สิ่งแรกๆที่จะดำเนินการหลังจากได้รับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

สำหรับสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนคือ การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนหลายปัญหา เพราะจากการลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในช่วงหาเสียง พบว่ายังมีปัญหาอีกหลายๆเรื่องที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งน้ำดี และน้ำเสีย พบว่าพื้นที่หลายๆตำบล หลายๆหมู่บ้าน ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ปัญหาดังกล่าวน่าจะเกิดจากการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้จะเร่งประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน

นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องของจราจร พบว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเยอะมากโดยเฉพาะเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดจากทางด้านวิศวกรรม บางจุดไม่มีไฟจรจาร บางจุดไม่มีเกาะกลางถนน ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูง ซึ่งมีการเรียกร้องจากประชาชนให้ให้รีบเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องนี้จะเร่งเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อบูรณาการ การทำงานในการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม

เรื่องต่อไปที่จะต้องเร่งดำเนินการ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระและถือเป็นหน้าที่ของอบจ.ภูเก็ตโดยตรง คือเรื่องของการพัฒนาโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต เพื่อรองรับการขยายตัวของโรงพยาบาล ซึ่งจะต้องเร่งทำสัญญาว่าจ้าผู้บริหารโรงพยาบาลเข้ามาใหม่ โดยจะทำสัญญาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทำสัญญาจ้างบริหารเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น และกำลังจะหมดสัญญาในเดือน พ.ค.นี้ การดำเนินการเรื่องของโรงพยาบาลจะต้องทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น โรงพยาบาลอบจ.จะต้องปิดตัวลง

สำหรับโรงพยาบาลอบจ.นั้นขณะนี้มีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกวันละประมาณ 300 คน ในอนาคตตั้งเป้าจำนวนคนใช้บริการไว้ที่วันละ 1,000 คน และจะเพิ่มในเรื่องของแพทย์เฉพาะทางเข้ามาให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้โรงพยาบาล อบจ.ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี

นอกจากนั้นเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการอีกเรื่องคือการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการทั้งเรื่องของการปรับปรุงสนาม เรื่องของการประชาสัมพันธ์ที่จะต้องทำอย่างเข้มข้น
วันเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต
ได้วางแผนบริหารจัดการโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตต่อไปอย่างไำร 

สำหรับการบริหารจัดการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต คาดว่าต้องใช้งบประมาณปีละประมาณเกือบ 200 ล้านบาท ขณะนี้โรงพยาบาลสามารถจัดเก็บค่ารักษาพยาบาลได้ประมาณ 6 ล้านกว่าบาท แต่ถ้าสามารถเก็บได้ตามเป้าที่วางไว้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขาดทุนไม่มากและใช้งบของรัฐเพียงปีละ 100 ล้านเท่านั้น และในอนาคตทางโรงพยาบาลจะปรับปรุงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย โดยจะมีการปรับปรุงห้องพักเดี่ยวเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะปัจจุบันยังมีผู้ใช้บริการน้อยอยู่ ส่วนห้องพักรวมราคาเตียงละ 300 บาท พบว่ามีคนมาใช้บริการจำนวนมากแล้ว

นโยบายการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในขอบเขตของอบจ.ในระยะ 4 ปีหลังจากนี้

สำหรับนโยบายหลักในการดำเนินงานก็ยังคงเน้นเรื่องของ “เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้” ซึ่งมีหลายเรื่องที่จะต้องดำเนินการ ทั้งเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว เรื่องของสุขภาพประชาชน ซึ่งในส่วนของสุขภาพ พบว่าคนภูเก็ตมีปัญหาเรื่องของสุขภาพมากขึ้น เรื่องของสร้างสถานที่ออกกำลังกาย เพิ่มแหล่งน้ำในทุกตำบล พัฒนาโครงการศูนย์กีฬาอาคารลักกี้คอมเพล็กซ์สะพานหิน สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เขื่อนบางวาด และเขื่อนบางเหนียวดำ
โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งโครงการอบจ.ภูเก็ตเดินหน้าต่อไป
การพัฒนาศูนย์กีฬาในร่ม และสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่จะดำเนินการให้เสร็จเมื่อเมื่อไหร่

สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์กีฬาในร่มจะทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 ปี เริ่มมีการศึกษาออกแบบแล้วภายในปีนี้ การออกแบบน่าจะแล้วเสร็จ ประมาณการในเบื้องต้นคาดจะใช้งบประมาณอยู่ที่ 300 ล้านบาท โดยการพัฒนาจะประกอบไปด้วยศูนย์แสดงสินค้า ลานเอนกประสงค์ สนามมวย สนามกีฬาสำหรับผู้สูงอายุ สนามกีฬาสำหรับเด็ก ซึ่งศูนย์กีฬาแห่งนี้จะเป็นสนามกีฬาในร่มที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ส่วนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่นั้น ในส่วนของเขื่อนบางวาดที่จะเข้าไปปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นจะดำเนินการเป็นเฟส โดยเฟสแรกจะรีบปรับปรุงสวนสาธารณะ ลู่วิ่ง ทางจักรยาน เพิ่มแสงสว่าง เพื่อให้ประชาชนสามารถไปออกกำลังกายได้ ส่วนเฟสที่ 2 จะพัฒนาในส่วนของเกาะกลางเขื่อนที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบผจญภัย ซึ่งกำลังเป็นกิจกรรมที่ต้องการของนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการพัฒนาเขื่อนบางเหนียวดำ ที่จะดำเนินการพัฒนาเป็นเฟส อย่างไรก็ตามการพัฒนาทั้ง 2 แห่ง จะเห็นผลภายใน 4 ปี
แบบแปลนการพัฒนาอ่างเก็บน้ำบางวาด ที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ี่ยวและออกกำลัังกายของคนภูเก็ต
ยังมีโครงการอะไรที่จะดำเนินการในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกอบจ.ภูเก็ต

สิ่งที่จะดำเนินการภายใน 4 ปีนี้เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรม คือ เรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการพัฒนาครู สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นจะยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยร่วมกับทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวออกไปโรดโชว์ยังเมืองต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตเพิ่มขึ้น สำหรับเป้าหมายการจัดโรดโชว์ในครั้งนี้ คือ การไปโรดโชว์ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดึงตลาดกลุ่มนี้กลับมา นอกจากนั้นยังมีตลาดออสเตรเลียที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพราะตอนนี้มีคู่แข่งที่สำคัญ อย่างบาหลีที่เข้ามาแยกตลาดนี้ไปจากภูเก็ต

ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยก็ยังดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบีชการ์ด ที่ในแต่ละปีสามารถช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำได้ปีละกว่า 1,000 คน เช่นด้วยกับกล้อง CCTV ที่จะดำเนินการเพิ่มในจุดต่าง เช่น ที่ป่าตอง และด่านตรวจท่าฉัตรไชย
การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งนโยบายของนายกอบจ.ภูเก็ต
ส่วนเรื่องการพัฒนาครูนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ภูเก็ตยังมีปัญหาเรื่องของการขาดแคลนอยู่ซึ่งภายใน 4 ปีนี้ จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมเช่นกัน ประกอบกับอีกไม่กี่ปีก็จะมีการเปิดเสรีอาเซียน เรื่องของภาษาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพราะต่อไปมีความจำเป็นต้องใช้ ถ้าครูเก่งเด็กก็จะเก่งตามไปด้วย สำหรับเรื่องครูนอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับครูแล้วยังจะต้องทำในการเรื่องของการหาบ้านพักให้กับครูด้วย เพราะเท่าที่ทราบครูที่ย้ายมาจากต่างจังหวัดไม่มีบ้านพักครูให้ทำให้ครูต้องไปเช่าบ้านในราคาที่แพง ทำให้ครูบางคนไม่สามารถอยู่ได้ต้องขอย้ายออกไปซึ่งเรื่องนี้ก็จะต้องเร่งแก้ปัญหาเช่นกัน
ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ต สมัยที่ 2
กำลังโหลดความคิดเห็น