อุบลราชธานี - เรือนจำกลางอุบลราชธานี ได้สั่งปรับปรุงห้องพบทนายใหม่ โดยเพิ่มความแข็งแรงกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ขณะที่ตำรวจนำทนายความหวังรวยทางลัดค้นบ้านพบของกลางใช้บรรจุยาเสพติดจำนวนมาก ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาล โดยคัดค้านการประกันตัวในวันเดียวกัน
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี นายชัยโรจน์ สินธุพุฒิพงศ์ ผบ.เรือนจำกลางอุบลราชธานี สั่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำช่างมาทำการต่อเติมห้องเยี่ยมทนายความกับผู้ต้องขังที่จะพบพูดคุยหารือการต่อสู้คดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณี นายเนรมิตร สุนทรา อาชีพทนายความที่ฉวยโอกาสระหว่างเบิกตัว นช.พงษ์เทพ กิ่งวัน ผู้ต้องขังคดียาเสพติดออกมาพบ
และอาศัยช่องว่างที่มีโอกาสพบปะกันเพียง 2 คน ส่งยาเสพติดทั้งยาไอซ์จำนวน 140 กรัม ยาบ้า 382 เม็ด ให้ นช.พงษ์เทพ นำไปจำหน่ายให้กับผู้ต้องขังรายอื่นในเรือนจำ โดยตรงจุดที่นายเนรมิตร ส่งยาเสพติดให้กับ นช.พงษ์เทพ อยู่บริเวณด้านล่างของม้านั่งที่มีลวดเหล็กดัดทำเป็นช่องสี่เหลี่ยมกั้นระหว่างห้องทนายความกับผู้ต้องขัง พบว่านายเนรมิตร ใช้ของมีคมตัดถ่างลูกกรงที่มีความถี่ประมาณ 1 นิ้ว ให้กว้างขึ้นเป็น 2 นิ้ว จนสามารถยื่นยาเสพติดให้กับ นช.พงษ์เทพ ได้
และหากสังเกตไม่ดีก็แทบมองไม่เห็นว่าลูกกรงมีร่องรอยถูกตัดออก แม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตอยู่นอกห้องก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เรือนจำจะทำการปรับปรุงแก้ไขปิดช่องว่าง โดยนำแผ่นพลาสติกใสมาปิดกั้นรอบห้อง แทนการทำเป็นลูกกรงแบบเดิม โดยเจาะรูที่แผ่นพลาสติกขนาดเล็กให้นักโทษและทนายความสามารถหารือปรึกษาพูดจาตอบโต้กันเรื่องคดีความที่จะต่อสู้ได้ รวมทั้งใช้ตาข่ายที่มีความถี่มาปิดกั้นทับอีกรอบหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยให้มีการส่งยาเสพติดผ่านห้องพบทนายได้ต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเนรมิตร ทนายความ ร.ต.อ.เฉลิมยศ พรหมสุวรรณ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำหมายค้นไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 186 หมู่ 10 ถ.สมเด็จ ต.ปทุม อ.เมืองอุบลราชธานี พบหลอดพลาสติกสีเขียวเหมือนหลอดที่ใช้บรรจุยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์ใช้บรรจุยาเสพติดอื่นจำนวนมาก จึงตรวจยึดมาใช้ประกอบเป็นหลักฐาน
พร้อมนำตัว นายเนรมิตร ไปฝากขังต่อศาล โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการขอประกันตัว และเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายเนรมิตรไปควบคุมระหว่างรอการดำเนินคดีที่เรือนจำกลางอุบลราชธานีในวันเดียวกันนี้ด้วย