ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ว่าฯกทม. ยกคำยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรมัดรฟท. ต้องบริหารจตุจักร เข้าเป้า 420 ล้านบาท หวั่นแปรตลาดนัดจตุจักร เป็นศูนย์การค้า จี้รฟท.เร่งแก้ปัญหามาเฟีย ด้านรักษาการ ผอ.ตลาดจตุจักร ยันไร้ปัญหามาเฟียหลังรฟท. เข้าดูแล เผยอาจต้องขึ้นค่าเช่าเล็กน้อย ขณะที่ผู้ค้าอยากให้ปรับปรุงห้องน้ำให้สะอาดมากขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้กล่าว แสดงความเป็นห่วงการบริหารตลาดนัดจตุจักร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งอยากให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยที่ผ่านมาหลังมีการส่งมอบพื้นที่ กทม.ให้ความร่วมมือกับรฟท.มาโดยตลอด ซึ่งจากนี้ไป ก็คงต้องให้เวลารฟท.ในการบริหารจัดการ เพราะมีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า รฟท.พร้อมบริหารตลาดนัดจตุจักร หากมีการปรับค่าเช่าสูงขึ้น รฟท.ก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง ซึ่ง รฟท.ก็ต้องเรียนรู้ แต่อยากเสนอว่าตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนตลาดนัดจตุจักรมาพัฒนาในแนวตั้ง เพราะเหตุผลที่ทำให้ กทม.ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าตามที่ รฟท.เรียกร้องคือ 420-445 ล้านบาท เป็นเพราะไม่ต้องการปรับสภาพตลาดนัดจตุจักร อยากให้คงความเป็นตลาดนัดไว้ ไม่ใช่เป็นศูนย์การค้าแนวสูง
ดังนั้นเมื่อ รฟท.เข้ามาดำเนินการเอง ก็อยากให้คงสภาพตลาดนัดจตุจักรไว้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่ารฟท. จะสามารถบริหารเพื่อให้มีรายได้ตามที่วางเป้าหมายไว้หรือไม่ แต่รฟท.ได้ยืนยันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ทำได้
ส่วนปัญหามาเฟียที่เข้าไปมีบทบาท เป็นเรื่องที่รฟท. ต้องเข้าไปดูแล แต่ไม่ขอออกความเห็นที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ยอมรับว่า เป็นคนส่งผู้กว้างขวางเข้าไปในตลาดนัดดังกล่าว
** อาจขึ้นค่าเช่าเล็กน้อย
นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า ภายหลังจากรฟท.ได้เข้ามาดูแลตลาดนัดจตุจักรอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่พบปัญหาร้องเรียนเรื่องมาเฟียในตลาดแต่อย่างใด
ส่วนการคิดค่าธรรมเนียมเช่าแผงใหม่นั้น รฟท. จะเก็บค่าเช่าแผงในราคาที่เหมาะสมที่ผู้ค้าและ รฟท.รับได้ โดยอาจมีการขึ้นค่าเช่าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือ
นายจรัสพันธ์ กล่าวถึง สิ่งปลูกสร้างอาคารสถานที่ที่เป็นของกทม. ว่า อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย สำหรับปัญหาการจัดเก็บขยะในตลาดนัดจตุจักร ทางรฟท.ได้ประสานสำนักสิ่งแวดล้อมให้ร่วมช่วยเหลือในการจัดเก็บขยะเช่นเดิม
ทั้งนี้ รฟท. ยังได้เปิดให้ผู้ค้าตลาดนัดไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแผงเป็นเวลา 60 วัน ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.พ.55 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านการโอนอำนาจบริหารจัดการระหว่าง กทม. และ รฟท. และจากการเปิดให้ผู้ค้าเดิมลงทะเบียน เพื่อยืนยันเป็นเจ้าของแผงค้าเช่นเดิม ขณะนี้มีผู้ค้ามาลงทะเบียนแล้ว 8,500 แผง จากผู้ค้าทั้งหมดในตลาด 8,807 แผง โดย รฟท.จะเปิดให้ผู้ค้าเก่า มาลงทะเบียนยืนยันไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.นี้
**ผู้ค้าวอนรฟท.เก็บค่าเช่าเหมาะสม
จากการสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร ที่อยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ล่าสุดพบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้ รฟท. ทำการสำรวจความต้องการของผู้ค้าภายในตลาดก่อนจะทำการปรับปรุงสถานที่ โดยเฉพาะเรื่องค่าเช่าแผง ที่จะต้องเรียกเก็บในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ ก็อยากให้จำนวนเงินที่เรียกเก็บนั้น เหมาะสมกับระยะเวลาที่เข้ามาค้าขาย เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่จะมีวันหยุด วันที่เปิดขายได้มีเพถียงเดือนละ 5-6 วันเท่านั้น จึงไม่อยากให้การรถไฟ เรียกเก็บค่าเช่าแผงเกินจริง และถ้าหากเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้เรียกเก็บเกินราคา 1,000 บาทต่อเดือน
ขณะเดียวกัน เมื่อต้องจ่ายค่าเช่าแผงที่แพงขึ้น กลุ่มผู้ค้าก็อยากให้มีการปรับปรุงสถานที่ อาทิ ห้องน้ำ และความสะอาดของตลาดให้ดีขึ้น เพื่อความสะดวกของลูกค้าที่จะเดินทางเข้ามา
ส่วนทางด้านของประชาชน ที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า อยากให้มีการปรับปรุงสถานที่จอดรถ และกำหนดเวลาให้รถขนาดใหญ่ มีเวลาขับเข้ามาในพื้นที่อย่างชัดเจน เพื่อสะดวกต่อการเดินเลือกซื้อสินค้าตามท้องถนนรอบใน รวมถึง การปรับปรุงจะต้องไม่ทำให้เอกลักษณ์ของตลาดนัดจตุจักรหายไป
**จตุจักรยุครฟท.ยังคึกคัก
สำหรับบรรยากาศภายในตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกที่รฟท.เข้ามาบริหารพื้นที่ ต่อจากกทม. ยังคงคึกคัก ประชาชนยังมาจับจ่ายซื้อสินค้าเหมือนเดิม โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสน.บางซื่อ สน.สุทธิสาร สน.โคกคราม สน.ประชาชื่น สน.นพวงศ์ สน.คันนายาว สน.เตาปูน หน่วยคอมมานโด กองบังคับการตำรวจจราจร ตำรวจรถไฟ รวมถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ได้แต่งตั้งขึ้น
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ คือการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ และความปลอดภัยให้กับผู้ค้าและประชาชน โดยตลอดทั้งวันจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ คอยเดินตรวจตราความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด และสืบหาข่าวในทางลับ เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่อาจจะก่อความไม่สงบ หรือ สร้างสถานการณ์ภายในตลาดนัดสวนจตุจักร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วเหตุการณ์ร้าย ๆไม่น่าจะเกิดขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้กล่าว แสดงความเป็นห่วงการบริหารตลาดนัดจตุจักร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งอยากให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยที่ผ่านมาหลังมีการส่งมอบพื้นที่ กทม.ให้ความร่วมมือกับรฟท.มาโดยตลอด ซึ่งจากนี้ไป ก็คงต้องให้เวลารฟท.ในการบริหารจัดการ เพราะมีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า รฟท.พร้อมบริหารตลาดนัดจตุจักร หากมีการปรับค่าเช่าสูงขึ้น รฟท.ก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง ซึ่ง รฟท.ก็ต้องเรียนรู้ แต่อยากเสนอว่าตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนตลาดนัดจตุจักรมาพัฒนาในแนวตั้ง เพราะเหตุผลที่ทำให้ กทม.ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าตามที่ รฟท.เรียกร้องคือ 420-445 ล้านบาท เป็นเพราะไม่ต้องการปรับสภาพตลาดนัดจตุจักร อยากให้คงความเป็นตลาดนัดไว้ ไม่ใช่เป็นศูนย์การค้าแนวสูง
ดังนั้นเมื่อ รฟท.เข้ามาดำเนินการเอง ก็อยากให้คงสภาพตลาดนัดจตุจักรไว้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่ารฟท. จะสามารถบริหารเพื่อให้มีรายได้ตามที่วางเป้าหมายไว้หรือไม่ แต่รฟท.ได้ยืนยันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ทำได้
ส่วนปัญหามาเฟียที่เข้าไปมีบทบาท เป็นเรื่องที่รฟท. ต้องเข้าไปดูแล แต่ไม่ขอออกความเห็นที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ยอมรับว่า เป็นคนส่งผู้กว้างขวางเข้าไปในตลาดนัดดังกล่าว
** อาจขึ้นค่าเช่าเล็กน้อย
นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า ภายหลังจากรฟท.ได้เข้ามาดูแลตลาดนัดจตุจักรอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่พบปัญหาร้องเรียนเรื่องมาเฟียในตลาดแต่อย่างใด
ส่วนการคิดค่าธรรมเนียมเช่าแผงใหม่นั้น รฟท. จะเก็บค่าเช่าแผงในราคาที่เหมาะสมที่ผู้ค้าและ รฟท.รับได้ โดยอาจมีการขึ้นค่าเช่าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือ
นายจรัสพันธ์ กล่าวถึง สิ่งปลูกสร้างอาคารสถานที่ที่เป็นของกทม. ว่า อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย สำหรับปัญหาการจัดเก็บขยะในตลาดนัดจตุจักร ทางรฟท.ได้ประสานสำนักสิ่งแวดล้อมให้ร่วมช่วยเหลือในการจัดเก็บขยะเช่นเดิม
ทั้งนี้ รฟท. ยังได้เปิดให้ผู้ค้าตลาดนัดไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแผงเป็นเวลา 60 วัน ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.พ.55 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านการโอนอำนาจบริหารจัดการระหว่าง กทม. และ รฟท. และจากการเปิดให้ผู้ค้าเดิมลงทะเบียน เพื่อยืนยันเป็นเจ้าของแผงค้าเช่นเดิม ขณะนี้มีผู้ค้ามาลงทะเบียนแล้ว 8,500 แผง จากผู้ค้าทั้งหมดในตลาด 8,807 แผง โดย รฟท.จะเปิดให้ผู้ค้าเก่า มาลงทะเบียนยืนยันไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.นี้
**ผู้ค้าวอนรฟท.เก็บค่าเช่าเหมาะสม
จากการสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร ที่อยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ล่าสุดพบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้ รฟท. ทำการสำรวจความต้องการของผู้ค้าภายในตลาดก่อนจะทำการปรับปรุงสถานที่ โดยเฉพาะเรื่องค่าเช่าแผง ที่จะต้องเรียกเก็บในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ ก็อยากให้จำนวนเงินที่เรียกเก็บนั้น เหมาะสมกับระยะเวลาที่เข้ามาค้าขาย เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่จะมีวันหยุด วันที่เปิดขายได้มีเพถียงเดือนละ 5-6 วันเท่านั้น จึงไม่อยากให้การรถไฟ เรียกเก็บค่าเช่าแผงเกินจริง และถ้าหากเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้เรียกเก็บเกินราคา 1,000 บาทต่อเดือน
ขณะเดียวกัน เมื่อต้องจ่ายค่าเช่าแผงที่แพงขึ้น กลุ่มผู้ค้าก็อยากให้มีการปรับปรุงสถานที่ อาทิ ห้องน้ำ และความสะอาดของตลาดให้ดีขึ้น เพื่อความสะดวกของลูกค้าที่จะเดินทางเข้ามา
ส่วนทางด้านของประชาชน ที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า อยากให้มีการปรับปรุงสถานที่จอดรถ และกำหนดเวลาให้รถขนาดใหญ่ มีเวลาขับเข้ามาในพื้นที่อย่างชัดเจน เพื่อสะดวกต่อการเดินเลือกซื้อสินค้าตามท้องถนนรอบใน รวมถึง การปรับปรุงจะต้องไม่ทำให้เอกลักษณ์ของตลาดนัดจตุจักรหายไป
**จตุจักรยุครฟท.ยังคึกคัก
สำหรับบรรยากาศภายในตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกที่รฟท.เข้ามาบริหารพื้นที่ ต่อจากกทม. ยังคงคึกคัก ประชาชนยังมาจับจ่ายซื้อสินค้าเหมือนเดิม โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสน.บางซื่อ สน.สุทธิสาร สน.โคกคราม สน.ประชาชื่น สน.นพวงศ์ สน.คันนายาว สน.เตาปูน หน่วยคอมมานโด กองบังคับการตำรวจจราจร ตำรวจรถไฟ รวมถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ได้แต่งตั้งขึ้น
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของเจ้าหน้าที่ คือการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ และความปลอดภัยให้กับผู้ค้าและประชาชน โดยตลอดทั้งวันจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ คอยเดินตรวจตราความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด และสืบหาข่าวในทางลับ เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่อาจจะก่อความไม่สงบ หรือ สร้างสถานการณ์ภายในตลาดนัดสวนจตุจักร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วเหตุการณ์ร้าย ๆไม่น่าจะเกิดขึ้น
