ASTVผู้จัดการรายวัน - กทม. เล็งพื้นที่ทำตลาดนัดแห่งใหม่ ขณะที่ ตร.คาด 7 วัน รู้เหตุไฟไหม้จตุจักร ส่วน ร.ฟ.ท.เผย กทม.เบี้ยวนัด เลื่อนเจรจาทรัพย์สินตลาดจตุจักรสัปดาห์หน้า เร่งสรุปค่าเช่าร่วมผู้ค้า ม.ค.นี้ เพื่อทำสัญญาให้จบใน ก.พ. ระบุผู้ค้าเดิมลงทะเบียนแล้ว 8,400 แผง เผยคนนอกยื่นขอแผงค้าถึง 1,000 ราย แต่ยังไม่เปิดรับผู้ค้าใหม่ขอจัดระเบียบผู้ค้าเดิมก่อน
วานนี้ (6 ม.ค. ) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเจรจาการส่งมอบพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งทางคณะกรรมการฯจะสรุปกรอบการเจรจาเกี่ยวเรื่องทรัพย์สิน และบุคลากรภายในตลาดนัดว่าจะมีทรัพย์สินส่วนใดที่การรถไฟฯจะใช้ต่อไป โดยในส่วนของการประเมินราคามูลค่าทรัพย์สินที่อยู่ในตลาดฯ จะมีกรรมการอีกชุดหนึ่ง ซึ่งมีสำนักการโยธาเป็นประธานในการพิจารณา โดยคาดว่าจะมีการนัดหมายเจรจากับคณะกรรมการของการรถไฟฯ ได้ภายในสัปดาห์หน้า
ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวว่า กทม.พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้ทันที เนื่องจากผู้ว่าฯ กทม. ไม่อยากให้กระทบกับผู้ค้าและประชาชนการบริหารตลาดจึงจะหยุดไม่ได้ ต้องดำเนินการต่อเนื่องทั้งนี้ กทม.อยากให้จตุจักรเป็นวิถีของตลาดนัดที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย อย่างไรก็ตามกทม. ก็มีแนวคิดหาพื้นที่สร้างตลาดนัดแห่งใหม่ที่ผ่านมากทม. ก็ทำหน้าที่ดูแลจตุจักรอย่างดีที่สุด หากบริหารตลาดไม่ดีตลาดนัดจตุจักรคงไม่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก แต่ไม่รู้ว่าร.ฟ.ท .จะรีบร้อนเอาไปทำไม ทั้งๆที่ยังไม่พร้อมบริหาร จะให้กทม.ดูแลก่อน เมื่อพร้อมบริหารต่อแล้วค่อยเอาไปก็ได้ กทม.ไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว แต่นี่ยังไม่พร้อม พอเอาไปก็เกิดปัญหา
ขณะที่นายทวีศักดิ์ สุทธิเสริม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานเพื่อเจรจาจัดการทรัพย์สินตลาดนัดจตุจักรที่ตั้งขึ้นระหว่าง ร.ฟ.ท.กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังไม่มีการประชุมร่วมกัน เนื่องจากกทม.ไม่ได้มาร่วมประชุมเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2555 เวลา 14.00 น. ตามที่มีการนัดหมายไว้ ขณะเดียวกันยังขอให้ ร.ฟ.ท.ทำหนังสือแจ้งกทม.อย่างเป็นทางการก่อน และให้ปรับเปลี่ยนประธานคณะทำงานใหม่ จากตนเป็นประธาน ให้เป็นระดับรองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ กทม. ที่มีนายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัด กทม.เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้แต่งตั้งนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธานแทน
“ตอนนี้ยังหาข้อสรุปเกี่ยวกับทรัพย์สินในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรไม่ได้ เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากแผงค้าที่ผู้ค้าออกค่าก่อสร้างเองแล้ว กองอำนวยการตลาดนัดจตุจักรซึ่ง กทม.ใช้ดำเนินงานนั้น เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวแต่ได้ก่อสร้างเพิ่มเป็น 3 ชั้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยมีธนาคาร 3 แห่ง ยืนยันว่าได้ออกเงินช่วยเป็นค่าก่อสร้างจึงเป็นทรัพย์สินของธนาคารด้วยเช่นเดียวกัน กทม.จะทุบทิ้งไม่ได้ อย่างไรก็ตามร.ฟ.ท.จะเร่งเจรจากับ กทม.ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด”นายทวีศักดิ์กล่าว
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอัตราค่าเช่านั้น จะเร่งหาข้อสรุปกับทางผู้ค้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนม.ค.นี้ เพื่อให้ทำสัญญากันได้ในเดือนก.พ. โดยในระหว่างนี้ ร.ฟ.ท.ได้ออกหนังสือชั่วคราวให้กับทางผู้ค้าไปก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะได้เป็นเจ้าของแผงค้าเดิม
"ขณะนี้มีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรมาขึ้นทะเบียนกับ ร.ฟ.ท.แล้วประมาณ 8,400 แผง จากทั้งหมด 8,800 แผงยัง เหลือผู้ค้าที่ยังไม่มาลงทะเบียนอีกประมาณ 400 แผง โดย ร.ฟ.ท.ได้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 15 ม.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าผู้ค้าทั้งหมดจะมาลงทะเบียนครบตามจำนวนแผงค้าที่มีอยู่อย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ไม่ใช่ผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรได้มายื่นเรื่องขอลงทะเบียนเป็นผู้ค้าอีกประมาณ 1,000 ราย อย่างไรก็ตาม ร.ฟ.ท.ยังไม่มีการเปิดแผงค้าใหม่เพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนอนาคตหากจะเปิดแผงค้าเพิ่มจะใช้วิธีการประมูล ให้ผู้ที่เสนอราคาดีที่สุดดังนั้นในขณะที่ผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเดิมยังไม่ต้องมาลงทะเบียน เพราะต้องการให้ผู้ค้าเดิมลงทะเบียนเพื่อจัดระเบียบให้เรียบร้อยก่อน
ด้านความปลอดภัย ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปดูแลแล้ว ขณะเดียวกันยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางซื่อ, ตำรวจรถไฟ และตำรวจ 191 ผลัดเปลี่ยนกันไปรักษาความปลอดภัยครั้งละ 40 นาย ในพื้นที่ 4 โซน ตลอด 24 ชั่วโมง
วันเดียวกัน พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รองผกก.สส.สน.บางซื่อ เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้แผงหนังสือเก่าในตลาดนัดสวนจตุจักรว่า หลังจากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้แล้ว คาดว่าประมาณ 7 วันจะทราบผลการตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นอุบัติเหตุ หรือวางเพลิงออกไป โดยต้องรอหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน
ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนกรณีที่ผู้ค้าขายในจตุจักรออกมาระบุว่าแต่ละแผงติดตั้งระบบตัดไฟ จึงน่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและน่าจะเป็นการวางเพลิง ซึ่งต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีผู้มีอิทธิเรียกรับผลประโยชน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงเปลี่ยนผู้บริหาร
วานนี้ (6 ม.ค. ) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเจรจาการส่งมอบพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งทางคณะกรรมการฯจะสรุปกรอบการเจรจาเกี่ยวเรื่องทรัพย์สิน และบุคลากรภายในตลาดนัดว่าจะมีทรัพย์สินส่วนใดที่การรถไฟฯจะใช้ต่อไป โดยในส่วนของการประเมินราคามูลค่าทรัพย์สินที่อยู่ในตลาดฯ จะมีกรรมการอีกชุดหนึ่ง ซึ่งมีสำนักการโยธาเป็นประธานในการพิจารณา โดยคาดว่าจะมีการนัดหมายเจรจากับคณะกรรมการของการรถไฟฯ ได้ภายในสัปดาห์หน้า
ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวว่า กทม.พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้ทันที เนื่องจากผู้ว่าฯ กทม. ไม่อยากให้กระทบกับผู้ค้าและประชาชนการบริหารตลาดจึงจะหยุดไม่ได้ ต้องดำเนินการต่อเนื่องทั้งนี้ กทม.อยากให้จตุจักรเป็นวิถีของตลาดนัดที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย อย่างไรก็ตามกทม. ก็มีแนวคิดหาพื้นที่สร้างตลาดนัดแห่งใหม่ที่ผ่านมากทม. ก็ทำหน้าที่ดูแลจตุจักรอย่างดีที่สุด หากบริหารตลาดไม่ดีตลาดนัดจตุจักรคงไม่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก แต่ไม่รู้ว่าร.ฟ.ท .จะรีบร้อนเอาไปทำไม ทั้งๆที่ยังไม่พร้อมบริหาร จะให้กทม.ดูแลก่อน เมื่อพร้อมบริหารต่อแล้วค่อยเอาไปก็ได้ กทม.ไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว แต่นี่ยังไม่พร้อม พอเอาไปก็เกิดปัญหา
ขณะที่นายทวีศักดิ์ สุทธิเสริม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานเพื่อเจรจาจัดการทรัพย์สินตลาดนัดจตุจักรที่ตั้งขึ้นระหว่าง ร.ฟ.ท.กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังไม่มีการประชุมร่วมกัน เนื่องจากกทม.ไม่ได้มาร่วมประชุมเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2555 เวลา 14.00 น. ตามที่มีการนัดหมายไว้ ขณะเดียวกันยังขอให้ ร.ฟ.ท.ทำหนังสือแจ้งกทม.อย่างเป็นทางการก่อน และให้ปรับเปลี่ยนประธานคณะทำงานใหม่ จากตนเป็นประธาน ให้เป็นระดับรองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ กทม. ที่มีนายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัด กทม.เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้แต่งตั้งนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธานแทน
“ตอนนี้ยังหาข้อสรุปเกี่ยวกับทรัพย์สินในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรไม่ได้ เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากแผงค้าที่ผู้ค้าออกค่าก่อสร้างเองแล้ว กองอำนวยการตลาดนัดจตุจักรซึ่ง กทม.ใช้ดำเนินงานนั้น เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวแต่ได้ก่อสร้างเพิ่มเป็น 3 ชั้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยมีธนาคาร 3 แห่ง ยืนยันว่าได้ออกเงินช่วยเป็นค่าก่อสร้างจึงเป็นทรัพย์สินของธนาคารด้วยเช่นเดียวกัน กทม.จะทุบทิ้งไม่ได้ อย่างไรก็ตามร.ฟ.ท.จะเร่งเจรจากับ กทม.ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด”นายทวีศักดิ์กล่าว
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอัตราค่าเช่านั้น จะเร่งหาข้อสรุปกับทางผู้ค้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนม.ค.นี้ เพื่อให้ทำสัญญากันได้ในเดือนก.พ. โดยในระหว่างนี้ ร.ฟ.ท.ได้ออกหนังสือชั่วคราวให้กับทางผู้ค้าไปก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะได้เป็นเจ้าของแผงค้าเดิม
"ขณะนี้มีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรมาขึ้นทะเบียนกับ ร.ฟ.ท.แล้วประมาณ 8,400 แผง จากทั้งหมด 8,800 แผงยัง เหลือผู้ค้าที่ยังไม่มาลงทะเบียนอีกประมาณ 400 แผง โดย ร.ฟ.ท.ได้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 15 ม.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าผู้ค้าทั้งหมดจะมาลงทะเบียนครบตามจำนวนแผงค้าที่มีอยู่อย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ไม่ใช่ผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรได้มายื่นเรื่องขอลงทะเบียนเป็นผู้ค้าอีกประมาณ 1,000 ราย อย่างไรก็ตาม ร.ฟ.ท.ยังไม่มีการเปิดแผงค้าใหม่เพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนอนาคตหากจะเปิดแผงค้าเพิ่มจะใช้วิธีการประมูล ให้ผู้ที่เสนอราคาดีที่สุดดังนั้นในขณะที่ผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเดิมยังไม่ต้องมาลงทะเบียน เพราะต้องการให้ผู้ค้าเดิมลงทะเบียนเพื่อจัดระเบียบให้เรียบร้อยก่อน
ด้านความปลอดภัย ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปดูแลแล้ว ขณะเดียวกันยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางซื่อ, ตำรวจรถไฟ และตำรวจ 191 ผลัดเปลี่ยนกันไปรักษาความปลอดภัยครั้งละ 40 นาย ในพื้นที่ 4 โซน ตลอด 24 ชั่วโมง
วันเดียวกัน พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รองผกก.สส.สน.บางซื่อ เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้แผงหนังสือเก่าในตลาดนัดสวนจตุจักรว่า หลังจากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้แล้ว คาดว่าประมาณ 7 วันจะทราบผลการตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นอุบัติเหตุ หรือวางเพลิงออกไป โดยต้องรอหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน
ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนกรณีที่ผู้ค้าขายในจตุจักรออกมาระบุว่าแต่ละแผงติดตั้งระบบตัดไฟ จึงน่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและน่าจะเป็นการวางเพลิง ซึ่งต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีผู้มีอิทธิเรียกรับผลประโยชน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงเปลี่ยนผู้บริหาร
