พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.น.เผย กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพบปลั๊กไฟของแผงขายหนังสือที่ 40 เป็นจุดที่เกิดเหตุมากที่สุด มีเขม่าควันจำนวนมาก เชื่อ เรื่องการวางเพลิงไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบในเรื่องของกลุ่มมาเฟียสักระยะก่อน พร้อมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้ม
วันนี้ (5 ม.ค.) เวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยกรณีเหตุเพลิงไหม้ตลาดนัดสวนจตุจักรเมื่อกลางดึกวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือประสานเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยภายในตลาดนัดสวนจตุจักร หลังจากที่มติของคณะรัฐมนตรีระบุให้การรถไฟเข้าไปดูแลอย่างเป็นทางการ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.จึงได้มีคำสั่งให้ตนจัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ บก.น.2 บก.อคฝ.และบก.จร.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลเรื่องการจราจร เพราะอาจจะมีคนบางกลุ่มมีความคิดเห็นแตกต่างจากมติคณะรัฐมนตรี
พล.ต.ต.เมธี กล่าวอีกว่า หลังมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาแล้ว การรถไฟก็ได้เข้าไปประสานกับทางกรุงเทพมหานคร ในเรื่องของการทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว สำหรับเหตุเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นเวลาประมาณ 20.40 น.เป็นร้านขายหนังสือแผงที่ 40 และ 41 ห่างจากกองรักษาการณ์ประมาณ 200 เมตร อยู่ริมถนนกำแพงเพชร ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกค่อนข้างหนัก จากการสอบปากคำพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของร้านให้การว่าปกติร้านจะเปิดเวลา 08.00 น.และปิดเวลา 18.00 น.หลังจากปิดร้านแล้วก็เดินทางกลับบ้าน สำหรับแผงเช่าหนังสือมีเนื้อที่ประมาณ 2 คูณ 3 เมตร และเป็นพื้นที่ค่อนข้างอับ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าปลั๊กไฟของแผงขายหนังสือที่ 40 เป็นจุดที่เกิดเหตุมากที่สุด มีเขม่าควันจำนวนมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ให้น้ำหนักไปในเรื่องของไฟฟ้าลัดวงจรใช่หรือไม่ พล.ต.ต.เมธี กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ทันทีว่าเป็นสาเหตุใด ต้องรอผลการตรวจจาก พฐ.อย่างเป็นทางการ ชุดสืบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟฟ้าลัดวงจรหรือเรื่องข้อพิพาทของสวนจตุจักร เบื้องต้น พฐ.ได้ตัดสายไฟเก็บไปตรวจสอบแล้ว ส่วนเรื่องการวางเพลิงไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะก่อนเกิดเหตุฝนตกหนัก อีกทั้งหลังคาของแผงหนังสือเป็นสังกะสี ถ้าจะขว้างระเบิดขวดหรือระเบิดควัน ก็น่าจะมีกลิ่นน้ำมัน แต่จากการตรวจสอบไม่พบ ประจักษ์พยานที่เห็นก็ระบุว่าเปลวไฟพุ่งขึ้นมาจากด้านใน
เมื่อถามว่า มีเรื่องของกลุ่มมาเฟียในสวนจตุจักรที่เก็บเงินให้กับกลุ่มคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รองผบช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ บก.สส.บช.น.ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางซื่อ และ กก.สส.บก.น.2 ต้องตรวจสอบทั้งกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ อาจจะเป็นเรื่องของที่เช่าแผง ซึ่งบางทีไม่ได้เป็นแผงเช่าของสวนจตุจักรเป็นที่ของบุคคลภายนอก ทั้งนี้ พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งหรือข้อพิพาทใดๆ กับใครเป็นคนละกลุ่มกันกับตลาดนัดซันเดย์ที่เคยมีเรื่องมาก่อน
ส่วนกรณีที่สวนจตุจักรมีเซฟตี้คัตตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้นั้น รองผบช.น.กล่าวว่า สวนจตุจักรมีตัวเซฟตี้ใหญ่ แต่ภายในแผงร้านค้าจะมีเซฟตี้ต่างหาก เพราะเสียค่าไฟเองมิเตอร์แยก อย่างไรก็ตาม ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในเรื่องของกลุ่มมาเฟียสักระยะก่อน ขณะนี้ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการเพิ่มสายตรวจการเดินเท้าให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก สน.บางซื่อ พ.ต.ต.สิทธิชัย ธัญญาบาล สว.สส.สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พ.ฐ.)ได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ
พ.ต.ท.อนุศักดิ์ วนาปกรณ์ รองผกก.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานจำพวก เศษไม้ กระดาษ และเศษสายไฟ รวมทั้งเถ้าถ่านจำนวน 4-5 ถุง ไปเข้าห้องแล็ป เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ว่าเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร หรือสาเหตุอื่น สำหรับขั้นตอนการตรวจพิสูจน์จะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ แต่การตรวจสอบบางอย่าง เช่น ร่องรอยการหลอมละลายของสายไฟ ก็สามารถมองเห็นและพิสูจน์ได้ด้วยตาเปล่า อย่างไรก็ตามคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล ซึ่งจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาต่อไป
มีรายงานว่าการเก็บเศษไม้และกระดาษในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบร่องรอยของน้ำมันเชื้อเพลิง ดูสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่ามาจากการวางเพลิงหรือไม่ ส่วนการเก็บเศษสายไฟฟ้า นั้นจะพิสูจน์สาเหตุว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรตามที่สันนิษฐานไว้หรือไม่
ด้านนายอรุณ ศรีจรูญ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นหน้าที่ของทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่จะต้องเข้ามาดูแลเยียวยาความเสียหายให้กับเจ้าของแผงหนังสือที่ถูกเพลิงไหม้ เนื่องจาก กทม.ได้โอนให้การรถไฟแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าทางการรถไฟควรจะดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ค้าภายในตลาดนัดจตุจักรให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างภายในตลาดนัดจตุจักรยังเป็นของ กทม.