กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร 2 กลุ่ม แห่ชุมนุมหน้าทำเนียบ “หนุน กทม.-ใครก็ได้” เข้าบริหาร แต่ต้องชัดเจนเรื่องค่าเช่าที่ที่เป็นธรรม และ ปชช.สามารถเข้าตรวจสอบสาธารณะได้ ขณะที่ มติ ครม.โยน “ร.ฟ.ท.” เข้าบริหาร มีผล 2 ม.ค.นี้ แต่ให้งดเก็บค่าแผง 2 เดือน
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถ.พิษณุโลก กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ประมาณ 200 คน นำโดย นายประวิทย์ วิทยาขจรศาสตร์ หัวหน้ากลุ่มตัวแทนผู้ค้า ได้ร่วมปักหลักชุมนุมเพื่อรอฟังผลมติคณะรัฐมนตรี กรณีสัญญาการบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรภายใต้การบริหารงานของกรุงเทพมหานคร จะสิ้นสุดวันที่ 1 มกราคม 2555 พร้อมทั้งเตรียมยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องการต่อสัญญาตลาดนัดจตุจักร โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ประการ คือ 1.ให้ยืนตามมติ ครม.ปี พ.ศ.2522 ที่ให้ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร เพราะมีความพร้อมในการบริหารจัดการตลาดนัดมากกว่าหน่วยงานอื่น 2.ให้กระทรวงคมนาคมกับกรุงเทพมหานคร เร่งเจรจาหาข้อยุติเรื่องค่าเช่าที่ดิน โดยอัตราค่าเช่าต้องเป็นธรรมกับผู้ค้าเพื่อให้ผู้ค้าสามารถประกอบกิจการได้ ในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ 3.ให้ต่อระยะสัญญาไปอีก 30 ปี 4.ผู้ค้าที่มีชื่อในทะเบียนแผงค้าหรือเอกสารสิทธิที่แสดงว่าได้มีสิทธิ์ทำการค้าเหมือนเดิม และต้องอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และ 5.ให้รัฐบาลสนับสนุนให้ตลาดนัดจตุจักรเป็นตลาดนัดของประชาชน โดยไม่มีกลุ่มทุนใดๆ แอบแฝงและยังคงเอกลักษณ์เป็นตลาดนัดชั้นเดียวอย่างนี้ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลังเพื่อรอฟังผล ครม.ซึ่งหากออกมาไม่น่าพอใจ จะหารือเพื่อยกระดับการชุมนุมต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรอีก 1 กลุ่มประมาณ 100 คน ที่อ้างว่า เป็นกลุ่มที่เป็นกลาง มีแนวทางที่ไม่คัดค้านว่าจะเป็น กทม.หรือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเข้ามาบริหาร โดยมาชุมนุมเพื่อรอฟังผล ครม.เช่นกัน โดย นางนฤมล แซ่หุ้น ตัวแทนกลุ่มผู้ค้า กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มผู้ค้าจากตลาดนัดจตุจักรอีกหนึ่งกลุ่ม ที่สามารถรับได้ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารดูแล ทั้ง กทม.และ ร.ฟ.ท. แต่อยากเรียกร้องให้ผู้ที่จะเข้ามาบริหาร ดำเนินการให้ตลาดนัดจตุจักรมีศักยภาพคุณลักษณะแห่งสาธารณประโยชน์ โดยเสนอแนวคิด 3 ประการ คือ 1.รัฐบาลพึงเร่งกำหนดมติให้ตลาดนัดจตุจักร เป็นภาระกิจสาธารณะ ที่รับกับผู้ค้าประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและบริหารจัดการ 2.ให้ผู้ค้าประชาชนมีสิทธิในการเข้าร่วมตรวจสอบสาธารณะได้ และ 3.การกำหนดราคาค่าเช่า ค่าธรรมเนียม และค่าตอบแทนใดๆ ของหน่วยงานราชการหรือองค์กรของรัฐที่เข้ามาบริหารจัดการ อย่าคำนึงหวังผลในเม็ดเงินรายได้สูงๆ จนลืมประโยชน์สาธารณะแห่งรัฐ ที่ประชาชนร่วมสร้างสรรค์มา ตั้งอยู่บนหลักการที่รัฐพึงให้การสนับสนุนเพื่อส่งเสริมเกื้อกูลสามารถเอื้ออำนวยต่อการบริหารจัดการร่วมกับประชาชน อีกทั้งทดแทนเงินงบประมาณแผ่นดินที่ตลาดนัดจตุจักรไม่เคยได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล
ต่อมา นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงคมนาคมรายงานให้ครม.ทราบถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเข้าไปดำเนินการเองในพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ครม.ได้รับทราบว่าสัญญาที่ให้กับกทม.ตรงนั้นสิ้นสุดสัญญาลง ซึ่งเท่าที่ผ่านมารายได้จากสัญญาเดิมค่อนข้างต่ำ และต่ำกว่าราคาตลาด จึงมีแนวคิดที่จะบริหารทรัพย์สินด้วยตัวเองจะดีกว่า โดยหลังจากสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 1 ม.ค.55 ก็จะบริหารทรัพย์สินด้วยตัวเอง และยังเป็นการช่วยให้รายได้ต่างๆที่รฟท.ขาดทุนกันอยู่มีเพิ่มขึ้น ฉะนั้นครม.จึงรับทราบในเรื่องของการสิ้นสุดสัญญา และรฟท.จะเข้ามาดำเนินการเองในวันที่ 1 ม.ค.55
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอเรื่องขอความเห็นชอบหลักการในการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรของรฟท.โดยมีข้อพิจารณาจากรฟท.ว่า หากต่ออายุสัญญากับกทม.ควรคิดราคาค่าเช่าที่เหมาะสมกับสภาพการในปัจจุบันและเป็นที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย จึงจะคุ้มค่ากับศักยภาพของทำเลและที่ดิน ประกอบกับ รฟท.ประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด และขณะนี้ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานใหม่ จึงเห็นควรรับพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรไปบริหารจัดการโดยมีแผนบริหารจัดการแบ่งเป็นแผนระยะยาวคือจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารพื้นที่ และวางรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ตลาดนัดในอนาคต ส่วนแผนระยะสั้นคือการกำหนดแนวทางการเข้าพื้นที่ จัดทำบัญชีรายชื่อผู้เช่า กำหนดอัตราค่าเช่า และการแก้ไขปัญหาทางด้านกฎหมาย จัดเตรียมฝ่ายการเงิน และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ รวมทั้งว่าจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการในด้านต่างๆ ระหว่างที่การจัดตั้งบริษัทลูกยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการดังกล่าว เพราะที่จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารพื้นที่ตลาดนักสวนจตุจักร เพราะมีความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล มติครม. กฎระเบียบข้อกฎหมาย ทั้งยังมีความเป็นไปได้ และเล็งเห็นความพร้อมของรฟท. นอกจากนี้ จะเป็นประโยชน์ในการบูรณากับโครงการที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นสมควรเสนอครม.เพื่อพิจารณาตามที่ รฟท.เสนอให้รับทราบการดำเนินงานของตลาดนัดสวนจตุจักรที่ผ่านมา และรฟท.จะเข้าจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรภายหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.55 เป็นต้นไป และเห็นสมควรเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรของ รฟท.ก่อนที่ รฟท.จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป