ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไป ครอบครัวคนรุ่นใหม่จะมีขนาดเล็กลง การที่พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน เด็กอยู่ลำพัง กิจกรรมส่วนใหญ่เด็กอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกม หรือพูดคุยกับคนรู้จักในอินเทอร์เน็ต ดังนั้น พ่อแม่จึงให้ความสนใจกับการหากิจกรรมอื่นๆ ให้ลูก ไม่ว่าจะเล่นดนตรี หรือกีฬา เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง สถาบันสอนดนตรี และสนามกีฬาในร่มจึงเกิดขึ้นมากมาย
สำหรับในส่วนของดนตรี ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ก็ต้องเป็นอูคูเลเล กีตาร์จิ๋ว เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงเครื่องดนตรีของเด็กไฮโซ อย่างไวโอลิน หรือเปียโนความนิยมก็ไม่ได้ลดน้อยลง เพราะปัจจุบันทั้งไวโอลินและเปียโนราคาถูกออกมาให้คนชอบดนตรีมีรายได้น้อยได้เป็นเจ้าของกัน
นายยงธนิศ หุตะจินดา เจ้าของสถาบันสอนดนตรี Classic and Jazz MHM Music เล่าว่า สถาบันสอนดนตรีของตนเองเปิดสอนดนตรีคลาสสิก ได้แก่ เปียโน กีตาร์ อูคูเลเล ไวโอลิน กลอง ฯลฯ และสอนพิเศษวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคม ภาษาไทย ฯลฯ ซึ่งการเปิดสอนพิเศษ มาจากการที่เด็กมาเรียนดนตรีในตอนเย็น ผู้ปกครองก็เลยต้องการให้สอนการบ้านให้เด็กด้วย ดังนั้น จึงเปิดสอนพิเศษควบคู่ไปด้วย โดยเด็กที่มาเรียน เปิดรับตั้งแต่เด็กเล็กอนุบาล ไปจนถึงมัธยม
สำหรับการเปิดสอนดนตรี จุดเริ่มต้นมาจาก ผมเองเป็นคนชอบเล่นดนตรี และก็ไปเรียนดนตรีกับทางสถาบันสอนดนตรี YAMAHA มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งพอโตขึ้น ทาง YAMAHA ก็ให้เป็นอาจารย์สอน พอเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเลือกเรียนในสาขาดนตรี จึงตัดสินใจมาเปิดสถาบันสอนดนตรี โดยใช้บ้านเป็นสถานที่เรียนสำหรับเด็ก เปิดมาได้ประมาณ 6 ปี เริ่มจากเปิดสอนเด็กๆ กลุ่มเพื่อนบ้านคนรู้จัก รวมไปถึงลูกศิษย์ที่เคยสอนที่โรงเรียนสอนดนตรี YAMAHA นำลูกๆ มาเรียนกับเรา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราสอนใกล้ชิดเหมือนพี่น้อง
หลังจากเปิดสอนดนตรีมาได้ระยะหนึ่ง ด้วยความที่สอนดนตรีเหมือนพี่น้อง เด็กมีการบ้านอะไรก็มาให้เราช่วยสอนให้ ผู้ปกครองแนะนำให้เปิดสอนพิเศษไปด้วย เพื่อว่าเด็กมาเรียนดนตรีเสร็จแล้ว ก็เรียนพิเศษ สอนการบ้านให้เลย เพราะบางครั้งพ่อแม่ ผู้ปกครองเลิกงานเย็น มารับลูกกลับบ้าน เด็กก็จะได้กลับไปพักผ่อน ผู้ปกครองไม่ต้องสอนการบ้านให้เด็กๆ อีก โดยอาจารย์ที่สอนพิเศษเป็นอาจารย์ที่สอนตามสถาบันการศึกษาต่างๆ และกลุ่มนิสิต นักศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาสอนการบ้าน ติววิชาให้เด็ก
โดยค่าเรียนดนตรี เดือนละ 2,000-2,500 บาท เรียน 4 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ถ้าเรียน 3 เดือน 12 ชั่วโมงค่าเรียน 5,900 บาท ส่วนค่าเรียนพิเศษกวดวิชา 250-300 บาทต่อชั่วโมง ปัจจุบันเด็กมาเรียนทั้งเรียนพิเศษ และเรียนดนตรีมากกว่า 100 คนต่อสัปดาห์ รายได้นอกจากการสอนพิเศษ สอนดนตรี บางส่วนเป็นรายได้มาจากการขายเครื่องดนตรี รายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท แบ่งรายได้จากการเรียนการสอน 100,000 บาท ที่เหลือเป็นรายได้จากการขายเครื่องดนตรี 100,000 บาท ผลตอบแทนที่ได้ประมาณ 30-40%
นายยงธนิศเล่าว่า ในส่วนของดนตรีที่เปิดสอนและได้รับความนิยมขณะนี้ คือ อูคูเลเล เพราะเครื่องดนตรีราคาไม่แพง และประกอบกับเด็กเล็กก็เล่นได้ ส่วนเปียโน ความนิยมไม่ได้ลดลงมากนัก เพราะปัจจุบันเปียโนราคาถูกออกมาขาย ราคาไม่ได้สูงเป็นหลักแสนบาทเหมือนในอดีต ส่วนความนิยมในการเรียนดนตรีของเด็กในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากกระแส นักร้อง นักดนตรีที่มาแรง ประกอบกับผู้ปกครองสนใจให้เด็กได้เรียนดนตรี เพราะเป็นการช่วยฝึกสมาธิ ให้เกิดไอคิว และอีคิว และได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มากกว่าการไปรวมกลุ่มกันเล่นเกม หรือทำอะไรที่ไม่ดี
สำหรับสถาบันสอนดนตรี Classic and Jazz MHM Music เกิดขึ้นมาได้ประมาณ 3 ปี โดยเปิดสอนอยู่ในห้องแถวเล็ก และเริ่มมีเด็กมาใช้บริการมากขึ้น จึงได้เปิดเป็นสถาบันฯ โดยได้งบเงินกู้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมาปรับปรุงห้องแถวใหม่วงเงิน กว่า 500,000 บาท การเติบโตมากกว่า 30% ทุกปี สัดส่วนการเรียนดนตรี กับการเรียนพิเศษ ถือเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน เพราะส่วนใหญ่เด็กมาเรียนพิเศษก็มาเรียนดนตรีด้วย ลูกค้าปัจจุบันมาจากการแจกแผ่นพับ ใบปลิว และมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก ซึ่งการทำธุรกิจแบบนี้ ถ้าทำให้ผู้ปกครองรู้สึกเชื่อใจ และไว้วางใจ ก็จะได้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
โทร.08-1949-5992