กาญจนบุรี - ชาวกาญจนบุรี บุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือผู้ว่าฯ คัดค้านก่อสร้างถนนสาย ก. ข. และสาย ค. พร้อมเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักพระราชวัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้าน ผอ.ทางหลวงชนบท รุดพบ ปชช.ทำบรรยากาศตึงเครียด ก่อนรับปากจะรายงานความเดือดร้อนให้กรมฯ ทราบโดยเร็ว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) นายพิศิษฐ์ ยินดีวี ตัวแทนผู้ประสานงานเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีด้านสังคมจังหวัดกาญจนบุรี นางภูวนีย์ ทับมะลิผล และนางจริยา ทองอยู่มาก แกนนำ พร้อมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่กรมทางหลวงชนบทมีหนังสือแจ้งเวนคืนที่ดินเพื่อทำการก่อสร้างถนนสาย ก. สาย ข.และสาย ค. ทั้งหมดเดินทางไปรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อคัดค้าน และให้ให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างถนนทั้ง 3 สาย โดยว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนายพีระพล ปั้นสังข์ ผู้อำนวยการทางหลวงชนบทจังหวัดกาญจนบุรี ตัวแทนจากรมทางหลวงชนบท เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นางภูวนีย์ ทับมะลิผล แกนนำ กล่าวว่า ตน และชาวบ้านที่เดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากการที่ทางหลวงชนบท มีหนังสือแจ้งให้ทราบว่า จะมีการเวนคืนที่ดินของประชาชนเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ในการก่อสร้างถนนเส้นใหม่จำนวน 3 สาย ประกอบไปด้วย
ถนนสาย ก. จุดก่อสร้างอยู่ที่บริเวณซอยไปรษณีย์ ไปบรรจบกับถนนสายบายพาส ซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างห้างสรรพสินค้า และบริษัทขายวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่
ถนนสาย ข. จุดก่อสร้างอยู่ที่บริเวณ 3 แยกไฟแดงท่าล้อ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จุดสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณใกล้กับ 4 แยกไฟแดงแก่งเสี้ยน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี และถนนสาย ค.จุดก่อสร้างอยู่ถนนสายบายพาส ติดกับวิทยาลัยเทคโนโลยีจังหวัดกาญจนบุรี จุดสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณถนนบ้านยาง ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี
ซึ่งหากมีการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างถนน จะมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการดังกล่าวประมาณ 1,000 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 10,000 คน สิ่งที่ทุกคนเรียกร้องก็คือ ต้องการให้ทางหลวงชนบทยกเลิกโครงการดังกล่าว เพราะโครงการดังกล่าวไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้แก่ประชาชนชาวกาญจนบุรี แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวกาญจนบุรีด้วยซ้ำ
นายพิศิษฐ์ ยินดีวี กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนผู้ประสานงานเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีด้านสังคม หลังจากมีโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น ตนได้ลงพื้นที่พบปะกับประชาชน และสอบถามและมีการประชุมหารือกันพบว่า ประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือนไม่มีใครต้องการให้มีการก่อสร้างถนนทั้ง 3 สาย ดังนั้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ลดความทุกข์ของประชาชน ยึดหลักความพอเพียง ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพ่อเมืองของเรา ขอให้มีหนังสือแจ้งให้กรมทางหลวงชนบทยกเลิกโครงการถนนผังเมืองรวมกาญจนบุรี ไม่นำกลับมาใช้อีกตลอดไปอย่างถาวร และตนเชื่อว่า สิ่งที่ชาวกาญจนบุรีต้องการให้ทางหลวงชนบทนำงบประมาณที่จะมาก่อสร้างถนนทั้ง 3 สาย ไปขยายเส้นทางถนนสายบายพาสจะเกิดประโยชน์ต่อชาวกาญจนบุรี และผู้ที่สัญจรไปมาจะคุ้มมากกว่า
ด้านนางจริยา ทองอยู่มาก อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ถนนสิงคโปร์ ชุมชนชุกกุ่ม เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า บ้านตนตั้งอยู่ที่โครงการถนนสาย ค.ตนอาศัยอยู่กับครบครัว โดยในบริเวณพื้นที่ของตนมีบ้านอยู่ทั้งหมด 3 หลัง หากมีการก่อสร้างโครงการถนนสาย ค. บ้านของตนก็จะถูกเวนคืน และรื้อถอนทั้งหมด ทั้งๆ ที่ครอบครัวของตนรวมทั้งเพื่อนบ้านทุกครอบครัว ต่างก็อยู่อาศัยมาหลายชั่วอายุคนอย่างสงบตลอดมา ดังนั้น ทุกคนและทุกครอบครัวที่เดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างถนนสาย ค.ทั้งหมดพร้อมที่จะคัดค้านการก่อสร้างอย่างถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ประชาชนกำลังรอยื่นหนังสือคัดค้านให้แก่นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีอยู่นั้น นายพีระพล ปั้นสังข์ ผู้อำนวยการทางหลวงชนบทจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางมาราชการที่ศาลากลางจังหวัด และได้พบกับกลุ่มประชาชนพอดีจึงเดินเข้าไปพบเพื่อเจรจาพร้อมกับอธิบายให้ประชาชนให้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งบรรยากาศเริ่มตึงเครียด เนื่องจากหลังจากประชาชนทราบว่าตัวแทนจากรมทางหลวงชนบทมาพบทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามต่างๆ นานา ซึ่งหลายคำถามที่ประชาชนต้องการทราบ
แต่ผู้อำนวยการทางหลวงชนบทจังหวัดกาญจนบุรีไม่สามารถตอบคำถามได้ สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่กำลังตึงเครียดก็เริ่มคลี่คลายลง เนื่องจากผู้อำนวยการทางหลวงชนบทจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวรับปากกับประชาชนว่า จะนำเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนรายงานให้กรมทางหลวงทราบโดยด่วน และจะจัดเวทีประชาพิจารร่วมกับประชาชนทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งเป็นเป็นตัวแทนรับหนังสือคัดค้านจากประชาชนด้วย
ต่อมา ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมับรับหนังสือคัดค้านจากประชาชน พร้อมทั้งกล่าวรับปากกับประชาชนว่า จะรีบส่งหนังสือไปสอบถามเพื่อขอทราบรายละเอียดจากกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงความว่าจำเป็นในการก่อสร้างถนนโครงการผังเมืองรวมสาย ก. สาย ข.และสาย ค.มากน้อยแค่ไหน เพื่อนำรายละเอียดมาชี้แจงต่อประชาชนให้ทราบต่อไป
สำหรับหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างถนนทั้ง 3 สายนั้น ชาวบ้านได้จัดทำขึ้นจำนวน 9 ฉบับ เพื่อส่งถึงเทศบาลตำบลปากแพรก นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานศาลปกครองสูงสุด และสำนักพระราชวังด้วย