เชียงราย - สาธารณสุขจังหวัดฯ เตือนชาวบ้านระวังกินเห็ดพิษ เผยเชียงรายมีป่วยแล้ว 15 ราย ขณะที่หลายจังหวัดคนตายเพราะกินเห็ดพิษหลายราย
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนประชาชนจำนวนมากนิยมรับประทานเห็ดตามฤดูกาล ซึ่งเห็ดที่ประชาชนมักนำมาบริโภคหรือจำหน่ายมีทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ และทุกปีจะมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการนำเห็ดพิษมาปรุงอาหาร เห็ดที่กินได้ เช่น เห็ดโคน เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ เห็ดหูหนู เห็ดลม เห็ดจูน เห็ดตับเต่าบางชนิด ส่วนเห็ดมีพิษที่ห้ามกินเพราะเป็นพิษต่อร่างกาย เช่น เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่านตีนเต่า เห็ดสมองวัว เห็ดน้ำหมึก เห็ดหิ่งห้อย เห็ดเกล็ดดาว เห็ดตับเต่าบางชนิด เป็นต้น
“สำหรับ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 พฤษภาคม 2555 ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงรายได้รับรายงานผู้ป่วยอันเกิดจากการกินเห็ดแล้วจำนวน 15 ราย โดยยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต แต่ก็มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ 45-54 ปี และเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม” นายแพทย์ชำนาญกล่าว
นายแพทย์ สสจ.เชียงรายระบุอีกว่า ส่วนใหญ่เห็ดพิษที่ชาวบ้านนำมาบริโภคนั้นมีลักษณะคล้ายๆ เห็ดระโงก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เห็ดไข่ห่าน เห็ดไข่เหลือง ซึ่งเห็ดชนิดนี้สามารถทำลายเซลล์ทุกส่วนของร่างกาย อาการจะเริ่มเมื่อได้รับพิษเข้าไปประมาณ 6-12 ชั่วโมง เริ่มจากระบบทางเดินอาหารผิดปกติ อาเจียน ท้องเดิน เป็นตะคริว ความดันโลหิตต่ำ ส่วนผู้ที่ได้รับพิษเข้าไปอาจเสียชีวิตในระยะแรกที่ตับบวมโต เจ็บบริเวณตับ เนื่องจากตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงขอเตือนประชาชนห้ามซื้อหรือนำเห็ดพิษมาปรุงอาหารอย่างเด็ดขาด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาต้านพิษ ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนที่บริโภคเห็ดพิษนี้เข้าไปจะเสียชีวิตแทบทุกราย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านหลายจังหวัดบริโภคเห็ดพิษต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวนมาก บางรายอาการโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตหลายราย เช่นล่าสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอนเสียชีวิต 6 ราย เพชรบูรณ์เสียชีวิตแล้ว 2 ราย สาหัสไม่รู้สึกตัวอีก 3 ราย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และมีเด็กวัย 2 เดือนถ่ายเหลวเพราะกินนมจากแม่ที่กินเห็ดพิษเข้าไป
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนประชาชนจำนวนมากนิยมรับประทานเห็ดตามฤดูกาล ซึ่งเห็ดที่ประชาชนมักนำมาบริโภคหรือจำหน่ายมีทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ และทุกปีจะมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการนำเห็ดพิษมาปรุงอาหาร เห็ดที่กินได้ เช่น เห็ดโคน เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ เห็ดหูหนู เห็ดลม เห็ดจูน เห็ดตับเต่าบางชนิด ส่วนเห็ดมีพิษที่ห้ามกินเพราะเป็นพิษต่อร่างกาย เช่น เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่านตีนเต่า เห็ดสมองวัว เห็ดน้ำหมึก เห็ดหิ่งห้อย เห็ดเกล็ดดาว เห็ดตับเต่าบางชนิด เป็นต้น
“สำหรับ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 พฤษภาคม 2555 ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงรายได้รับรายงานผู้ป่วยอันเกิดจากการกินเห็ดแล้วจำนวน 15 ราย โดยยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต แต่ก็มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ 45-54 ปี และเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม” นายแพทย์ชำนาญกล่าว
นายแพทย์ สสจ.เชียงรายระบุอีกว่า ส่วนใหญ่เห็ดพิษที่ชาวบ้านนำมาบริโภคนั้นมีลักษณะคล้ายๆ เห็ดระโงก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เห็ดไข่ห่าน เห็ดไข่เหลือง ซึ่งเห็ดชนิดนี้สามารถทำลายเซลล์ทุกส่วนของร่างกาย อาการจะเริ่มเมื่อได้รับพิษเข้าไปประมาณ 6-12 ชั่วโมง เริ่มจากระบบทางเดินอาหารผิดปกติ อาเจียน ท้องเดิน เป็นตะคริว ความดันโลหิตต่ำ ส่วนผู้ที่ได้รับพิษเข้าไปอาจเสียชีวิตในระยะแรกที่ตับบวมโต เจ็บบริเวณตับ เนื่องจากตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงขอเตือนประชาชนห้ามซื้อหรือนำเห็ดพิษมาปรุงอาหารอย่างเด็ดขาด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาต้านพิษ ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนที่บริโภคเห็ดพิษนี้เข้าไปจะเสียชีวิตแทบทุกราย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านหลายจังหวัดบริโภคเห็ดพิษต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวนมาก บางรายอาการโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตหลายราย เช่นล่าสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอนเสียชีวิต 6 ราย เพชรบูรณ์เสียชีวิตแล้ว 2 ราย สาหัสไม่รู้สึกตัวอีก 3 ราย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และมีเด็กวัย 2 เดือนถ่ายเหลวเพราะกินนมจากแม่ที่กินเห็ดพิษเข้าไป
