ชาวบ้านรุกป่าดงใหญ่เดือดบุก “ห้องผู้ว่าฯ บุรีรัมย์” จี้สั่งหยุดจับกุม-ทำลายพืชผล

บุรีรัมย์ - ชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 3 กลุ่มที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์กว่า 100 คน สุดทนบุกห้องทำงานผู้ว่าฯ บนศาลากลางจังหวัดฯ จี้สั่งเจ้าหน้าที่หยุดเข้าจับกุมและทำลายพืชการเกษตรตามที่รัฐให้สัญญาระหว่างรอการแก้ปัญหา ขณะตัวแทนจังหวัดรับเรื่องนัดหารือ 1 มิถุนายนนี้

วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินที่ได้พากันเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำลำนางรอง, กลุ่มบ้านดงเย็น ตลาดควาย และกลุ่มบ้านเก้าบาตร กว่า 100 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ และบุกขึ้นไปชั้น 3 ถึงหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกับได้นำเอกสาร และหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเหยียบย่ำทำลายพืชผลทางการเกษตร ไร่มันสำปะหลังที่ชาวบ้านปลูกไว้ เพื่อร้องเรียนขอความช่วยเหลือให้ทางผู้ว่าฯ ได้มีคำสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านตามที่ได้ให้สัญญาไว้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14-16 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มประชาชนผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ได้ร่วมชุมนุมและเปิดเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์เราสู้ อำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ โดยมีตัวแทนของรัฐบาล พร้อมคณะทำงานเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดิน สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เข้าร่วมรับฟังและรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ

โดยมีข้อสรุปให้กลุ่มผู้เดือดร้อนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐถอยคนละก้าว และรับปากให้ประชาชนทำกินไปก่อนในพื้นที่จำกัด และไม่ให้มีการขยายการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ในระหว่างการรอการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล แต่ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปข่มขู่ เหยียบย่ำทำลายพืชผลทางการเกษตรของประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไข เกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรงบานปลายระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐได้

นายสมนึก ปัดชา อนุกรรมการกรณีปัญหาป่าไม้และที่ดินป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐได้บุกรุกสร้างที่พักในแปลงทำการเกษตรที่ชาวบ้านปลูกไว้ พร้อมเหยียบทำลายพืชผลของชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่รอการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐ และข่มขู่ให้หยุดการทำการเกษตร

นายสมนึกกล่าวต่อว่า จึงเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ยุติการจับกุมและดำเนินคดี ข่มขู่คุกคาม ทำลายทรัพย์สิน รื้อถอนและทำลายพืชผลการเกษตร และปักป้ายยึดพื้นที่ปลูกต้นไม้ไล่ที่ ตลอดจนให้ชาวบ้านทำกินได้ตามปกติไปพลางๆ ก่อนระหว่างรอการแก้ไขปัญหาของทางภาครัฐ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งอาจจะมีตามมาได้

ต่อมา พ.อ.ประจักษ์ ประเมศรี รองผู้อำนวยการกองรักษาการความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ และนายนิรันดร์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกแกนนำชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่มเข้าหารือถึงปัญหาความเดือดร้อน แต่ไม่สามารถหาข้อยุติปัญหาได้ จึงรับเรื่องร้องเรียนไว้เสนอให้ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ทราบต่อไป

โดยทางจังหวัดฯ จะได้มีการเรียกแกนนำและกลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนทั้ง 3 กลุ่ม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกล่าวหามาประชุมหารือเพื่อหาทางออกไม่ให้เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้านอีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ชาวบ้านพอใจ ต่างก็พากันเดินทางกลับในเวลาต่อมา