ตรัง - เจ้าหน้าที่บุกรวบ 3 พ่อแม่ลูก ในข้อหาบุกรุกป่าสงวน ในพื้นที่ ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง แต่ผู้ต้องหาอ้างว่า เคยมีปลัดอำเภอคนหนึ่งมาจับกุม และอนุญาตให้อาศัยอยู่ชั่วคราวแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) นายเนติวิทย์ ขาวดี ผบ.ร้อย อส.จ.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.สิเกา พร้อมกับ นายวิโรจน์ ศรีจันทร์ทอง สารวัตรกำนัน ต.ไม้ฝาด นายสมศักดิ์ แก้วมูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ไม้ฝาด รวมจำนวนกว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบป่าชุมชนบ้านควนเห็นเล ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสายคลองร่มเมือง ป่าสายควน และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง หมู่ที่ 1 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หลังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ว่า มีการบุกรุกแผ้วถางป่า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมและตรวจสอบพื้นที่ โดยพบว่า มีการแผ้วถางทำลายป่า เพื่อก่อสร้างขนำ และเพิงไว้อยู่อาศัย จำนวน 3 หลัง ในเนื้อที่ 5 ไร่ 1 งาน จึงได้จับกุม นายชีพ เชียตุด อายุ 51 ปี พร้อมด้วย น.ส.บุญริม จันทร์เต็ม อายุ 53 ปี ภรรยา และ นายวิชิต เชียตุด อายุ 21 ปี บุตรชาย โดยทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 178/3 หมู่ที่ 1 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ทั้งนี้ ในระหว่างเข้าจับกุม น.ส.บุญริม ได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนขนำ พร้อมกับร้องไห้โหยหวน โดยมีหลานสาววัย 4 ขวบ นั่งร้องไห้ด้วยความตกใจอยู่ข้างๆ เมื่อทราบว่าได้ถูกจับกุม จนสร้างความสลดใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนอย่างมาก
โดยนายชีพ ให้การอ้างว่า เดิมตนเป็นคนพื้นเพอยู่ใน ต.บ่อหิน อ.สิเกา ต่อมาได้ถูกญาติพี่น้องเผาบ้านขับไล่ที่ เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินผืนดังกล่าว จึงทำให้ครอบครัวตนกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่ซุกหัวนอน ดังนั้น เมื่อนางอารี โพชสาลี ชาวบ้านแถวนั้นเห็นว่าตนไม่มีที่อยู่ จึงได้ว่าจ้างให้ตนมาถางป่า และอนุญาตให้พักอาศัยอยู่ในป่าชุมชนแห่งนี้ โดยบอกว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เคยตรวจยึด และจับกุมมาแล้ว นายบุญเคียง ซึ่งเป็นสามีของ นางอารี จึงบอกว่าคงจะไม่มาตรวจสอบซ้ำอีก เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนจึงได้ชวนภรรยา ลูกชาย และหลานสาว มาพักอาศัยอยู่ที่ในป่าแห่งนี้ได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว โดยมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา โดยมีรายได้เลี้ยงครอบครัววันละ 100 บาท
นายชีพ ยังอ้างอีกว่า ในระหว่างที่อยู่อาศัยนั้น ปลัดอำเภอคนหนึ่ง ได้นำเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมผู้บุกรุกทำลายป่า ตนจึงได้ขออนุญาตเพื่ออยู่อาศัยในป่าแห่งนี้ เนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัย และก็ได้รับการอนุญาตให้อยู่เป็นการชั่วคราวไปก่อน แต่มีข้อแม้ห้ามตนไปบุกรุกแผ้วถางทำลายป่าบริเวณรอบๆ ตนจึงอยู่ได้อยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้ กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาแก่ นายชีพ ว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือทำลายป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พร้อมนำตัวส่งสภ.สิเกา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายเนติวิทย์ ขาวดี ผบ.ร้อย อส.จ.ตรัง เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ตนเคยนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจยึด และจับกุม นายบุญเคียง โพชสาลี ในข้อหาบุกรุกแผ้วถางทำลายป่า ภายในเนื้อที่ 10 ไร่ และขณะนี้ศาล จ.ตรัง ได้ตัดสินจำคุกไปแล้ว และเหลืออีก 6 เดือนก็จะพ้นโทษออกมา แต่ในระหว่างนี้ ลูกหลานของ นายบุญเคียง ได้มาบุกรุกต่อ ทางตนจึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. พร้อม นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในขณะนั้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบป่า และสั่งการไม่ให้มีการบุกรุกไว้แล้ว