บุรีรัมย์ - หน่วยป้องกันรักษาที่ บร.5 จ.บุรีรัมย์ แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุกป่าสงวนดงใหญ่พื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ ที่หมดสัญญาเช่าสัมปทานของบริษัทเอกชนแล้วร่วม 30 คดี ส่งฟ้องศาลแล้ว 10 คดี ล่าสุด ศาลตัดสินชี้ผิดทั้งจำละปรับกับผู้บุกรุกแล้ว 5 คดี
วันนี้ (28 มี.ค.) นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีกลุ่มแกนนำและชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกิน 6 กลุ่ม กว่า 1,000 ครัวเรือน เข้าไปบุกยึดจับจองทำกินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ที่บริษัทเอกชนได้หมดสัญญาสัมปทาน 8 ใน 9 แปลง บนเนื้อที่กว่า 23,700 ไร่ ที่ได้ถูกประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จนเกิดปัญหาเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 2552 นั้น
จนถึงขณะนี้ ทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำและชาวบ้านผู้บุกรุกแล้วร่วม 30 คดี ในข้อหา “ร่วมกันบุกยึดถือครอบครองทำประโยชน์ แผ้วถางก่อสร้าง หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ในจำนวนนี้ได้ถูกส่งฟ้องศาลแล้ว 10 คดี
ล่าสุด ศาลจังหวัดนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้พิจารณาตัดสินคดีชี้เอาผิดผู้บุกรุกแล้ว 5 คดี มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 5 ปี ส่วนที่เหลือยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบ และรอการพิจารณาตัดสินคดีของศาล
ทั้งนี้ หน่วยป้องกันรักษาป่าฯ จะแจ้งความเอาผิดกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ทุกราย หากยังฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2552 ที่ไม่ให้เอกชนเช่าต่อ ให้ผนวกเป็นเขตพื้นป่าอนุรักษ์และเป็นป่าต้นน้ำ ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกโดยเด็ดขาด และให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทุกราย
“จึงขอเตือนชาวบ้าน ประชาชน อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มผู้หลอกลวงชักชวนให้เข้าไปบุกรุกจับจองป่าดงใหญ่ เป็นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยโดยเด็ดขาด หากไม่เช่นนั้นก็จะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที” นายสรรเพ็ชร กล่าว