กระบี่-ป้องกันจังหวัดกระบี่ติดตามความคืบหน้าการจัดการผู้บุกรุกป่าในช่อง ขณะที่ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ระบุ อยู่ระหว่างการดำเนินการ เผยพื้นที่ป่าน้อยลงต้องการให้ประชาชนเข้ามาดูแลเป็นป่าชุมชน
วันนี้(14 ก.พ.) ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ เดินทางเข้าพบนายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าการป้องกันการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ริมถนนเพชรเกษม สายกระบี่-อ่าวลึก ต.เขาคราม และ ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบุกรุกจำนวนมาก และนักอนุรักษ์ป่าได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการจัดการอย่างจริงจัง เพราะเป็นป่าต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ อันซีนกระบี่
นายเผชิญ โมฬี ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่อง ที่ผ่านมาได้มีการบุกรุกหลายแปลง และเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการไปตามหน้าที่ แต่เนื่องจากบางแปลงเป็นการบุกรุกมาก่อน และเมื่อประกาศใช้มาตรา 25 ก็มีผู้มาแสดงตน ก็นำเข้าสู่กระบวนการของศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ นอกจากนั้นบางแปลงก็เป็นพื้นที่ควบคุม คือมีการเข้ามาทำกินปลูกผลอาสินจนมีขนาดใหญ่ ก็ห้ามตัดทำลายทำได้เพียงการเก็บผลผลิต ซึ่งส่วนนี้ก็อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิเช่นกัน
นายเผชิญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทางป่าไม้ต้องการในขณะนี้คือ การให้กลุ่มประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล เพราะพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องขณะนี้เหลือพื้นที่ป่าไม่มากนัก ดังนั้นหากทำเป็นป่าชุมชนมีการดูแลโดยชุมชน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน และเป็นการร่วมกันรักษาป่าไว้ เพราะหากจะรอให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างต่อเนื่องนั้นคงลำบาก เนื่องจากมีกำลังเจ้าหน้าที่น้อย
ส่วนกรณีของจังหวัดที่จะติดตามความคืบหน้าของป่าแห่งนี้ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้างนั้น ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคดีและพื้นที่บุกรุกทั้งหมดว่าอยู่ขั้นตอนใด เพื่อรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ทราบต่อไป
ด้านนายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนได้มาขอข้อมูลการจัดการป่าในช่องทั้งหมด ว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกเท่าใด อยู่ในขั้นตอนใดบ้าง เพราะขณะนี้ทางผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย โดยเฉพาะทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ให้ความสำคัญกับป่าแห่งนี้ ซึ่งหากติดขัดในขั้นตอนใด ก็จะมีการหาแนวทางจัดการต่อไป ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้มาบีบบังคับผู้มีหน้าที่ แต่ที่ต้องทำก็เพื่อจะมาช่วยกันรักษาป่าแห่งนี้ไว้ ซึ่งหลังจากนี้ทราบว่าทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ จะส่งรายงานมาให้ภายหลัง
วันนี้(14 ก.พ.) ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ เดินทางเข้าพบนายเผชิญ โมฬี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าการป้องกันการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ริมถนนเพชรเกษม สายกระบี่-อ่าวลึก ต.เขาคราม และ ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบุกรุกจำนวนมาก และนักอนุรักษ์ป่าได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการจัดการอย่างจริงจัง เพราะเป็นป่าต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ อันซีนกระบี่
นายเผชิญ โมฬี ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่อง ที่ผ่านมาได้มีการบุกรุกหลายแปลง และเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการไปตามหน้าที่ แต่เนื่องจากบางแปลงเป็นการบุกรุกมาก่อน และเมื่อประกาศใช้มาตรา 25 ก็มีผู้มาแสดงตน ก็นำเข้าสู่กระบวนการของศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ นอกจากนั้นบางแปลงก็เป็นพื้นที่ควบคุม คือมีการเข้ามาทำกินปลูกผลอาสินจนมีขนาดใหญ่ ก็ห้ามตัดทำลายทำได้เพียงการเก็บผลผลิต ซึ่งส่วนนี้ก็อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิเช่นกัน
นายเผชิญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทางป่าไม้ต้องการในขณะนี้คือ การให้กลุ่มประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล เพราะพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องขณะนี้เหลือพื้นที่ป่าไม่มากนัก ดังนั้นหากทำเป็นป่าชุมชนมีการดูแลโดยชุมชน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน และเป็นการร่วมกันรักษาป่าไว้ เพราะหากจะรอให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างต่อเนื่องนั้นคงลำบาก เนื่องจากมีกำลังเจ้าหน้าที่น้อย
ส่วนกรณีของจังหวัดที่จะติดตามความคืบหน้าของป่าแห่งนี้ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้างนั้น ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคดีและพื้นที่บุกรุกทั้งหมดว่าอยู่ขั้นตอนใด เพื่อรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ทราบต่อไป
ด้านนายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนได้มาขอข้อมูลการจัดการป่าในช่องทั้งหมด ว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกเท่าใด อยู่ในขั้นตอนใดบ้าง เพราะขณะนี้ทางผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย โดยเฉพาะทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ให้ความสำคัญกับป่าแห่งนี้ ซึ่งหากติดขัดในขั้นตอนใด ก็จะมีการหาแนวทางจัดการต่อไป ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้มาบีบบังคับผู้มีหน้าที่ แต่ที่ต้องทำก็เพื่อจะมาช่วยกันรักษาป่าแห่งนี้ไว้ ซึ่งหลังจากนี้ทราบว่าทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ จะส่งรายงานมาให้ภายหลัง