ม็อบไร้ที่ทำกินบุกศาลากลางบุรีรัมย์ ร้อง “ปู” สาง “ป่าดงใหญ่” - เชือด จนท.รัฐ

บุรีรัมย์ - ม็อบไร้ที่ดินทำกินที่เข้ายึดจับจองป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่ทำกิน รวมตัวบุกศาลากลาง เปิดเวทีเรียกร้องรัฐบาล “นายกฯปู” ยกเลิกการผนวกป่าดงใหญ่เอกชนหมดสัญญาเช่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์มาจัดสรรเป็นที่ทำกินให้ชาวบ้านคนจน พร้อมจี้เอาผิด จนท.รัฐละเว้นปล่อยนายทุนบุกรุกป่ามากว่า 20 ปี และเลือกปฏิบัติใช้ กม.ข่มขู่คุกคาม ปชช.ขู่หากไม่ดำเนินการเคลื่อนพลบุกทำเนียบ

วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านผู้ไม่มีที่ดินทำกิน 6 กลุ่ม ประมาณ 500 คน ที่เข้าไปบุกยึดจับจองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่บริษัทเอกชนได้หมดสัญญาสัมปทานเนื้อที่กว่า 23,700 ไร่ เป็นที่ดินทำกิน ได้รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเปิดเวทีปราศรัย เรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงรัฐบาล ให้ทบทวนยกเลิกนโยบายการผนวกป่าดงใหญ่ เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่เพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์ให้เป็นป่าต้นน้ำและที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แต่ให้นำพื้นที่ป่าที่หมดสัมปทานดังกล่าว มาจัดสรรเป็นที่ทำกินให้กับชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกิน

พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ที่มีส่วนรู้เห็น เพิกเฉย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้นายทุนเข้าไปบุกรุกทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าดงใหญ่กว่า 20 ปี ซึ่งมีประชาชนเข้าไปแจ้งความแล้วแต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ

นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมยังได้เรียกร้อง นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้หยุดใช้กฎหมายคุกคามข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่พิพาทดังกล่าว พร้อมให้ช่วยเหลือชาวบ้าน 19 รายที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าหากการเรียกร้องครั้งนี้ไม่เป็นผลหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขภายใน 1 เดือนชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินก็จะรวมตัวกันบุกทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ชาวบ้านต้องการเรียกร้องพื้นที่สัญญาเช่าป่า 23,764 ไร่ ในพื้นที่ อ.โนนดินแดง 5 ข้อ คือ 1.ให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทบทวนเตรียมพื้นที่ป่ายูคาฯ ที่หมดสัญญาการอนุญาต พื้นที่ อ.โนนดินแดงที่จะเตรียมผนวกเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ให้นายกรัฐมนตรี หยุดยั้งการผนวก ภายใน 30 วัน

2.ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ป่าไม้ หยุดใช้กฎหมาย ขุมขู่คุกคามประชาชน เลือกปฏิบัติดำเนินคดีคนจน 19 ราย และหยุดยั้งการแจ้งความดำเนินคดีคนจนที่ทำกินในเขตพื้นที่พิพาทในขณะนี้

3.ให้นายกรัฐมนตรี สั่งพักราชการป่าไม้ ส่วนราชการที่รู้เห็นในการเพิกเฉย ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ดังนี้ ปล่อยให้นายทุนบุกรุกพื้นที่ทำประโยชน์มา 20 กว่าปี จำนวน 800-1,000 ไร่ ซึ่งประชาชนได้แจ้งความแล้ว เมื่อ 6 พ.ย.2552 และ ไม้พะยูง ไม้เถื่อนมีนายทุนตัดไม้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่รู้เห็นหรือไม่อย่างไร ให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งป่าธรรมชาติถูกทำลายบุกรุกพื้นที่ 500-1,000 ไร่ ชาวบ้านแจ้งความเมื่อ 6 ก.ค.2554

นอกจากนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้พักราชการเจ้าหน้าที่ป่าไม้และผู้เกี่ยวข้องไว้ก่อนอาทิ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ (นายสุทธิชาติ ระเบียบ), นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้า บร.5 ลำนางรอง อ.โนนดินแดง, นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 8 และอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมผู้เกี่ยวข้องรู้เห็นทั้งหมดช่วงเกิดเหตุ

4.ให้นายกรัฐมนตรี นำพื้นที่หมดการอนุญาต จำนวน 23,764 ไร่ พื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ นำเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อมีมติแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน ภายใน 30 วัน

และ 5.หากข้อเรียกร้องไม่ได้รับการแก้ไข จะดำเนินการนำประชาชนผู้เดือดร้อนไปหานายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป

ต่อมา นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ได้มารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้านที่มาชุมนุมรับปากว่าจะนำข้อเรียกร้องของชาวบ้านรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบ พร้อมจะนำส่งเรื่องไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือตามที่ชาวบ้านเรียกร้องต่อไป เพราะทางจังหวัดไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ชาวบ้านที่มาชุมชนต่างพอใจและยอมสลายตัวกลับไปในเวลาต่อมา