“ยิ่งลักษณ์” เหยียบเมืองสิงห์ เช็กประตูระบายน้ำ สั่ง กยน.หาทางระบายน้ำจากต้นสู่ปลายให้สัมพันธ์กัน ขณะพระลูกวัดโผล่ขอ 2 นาที ยื่นข้อเสนอลอกบึงไว้กักน้ำ ถูกเด็กกรมชลฯ รุมขวางห้ามพบตัว รับสะดุดใจถูกสกัดเสรีภาพ ขู่บุกทำเนียบถ้าเรื่องไปไม่ถึง
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ จ.สิงห์บุรี เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปถึงประตูระบายพลเทพ อ.เมือง เพื่อตรวจการทำงานของประตูระบายน้ำ โดยมี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานคอยชี้แจง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ประตูระบายน้ำพลเทพสามารถระบายน้ำได้ 320 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ขณะที่คลองที่รองรับท้ายน้ำสามารถรับน้ำได้แค่ 200 ล้าน ลบ.ม.ก็จะเหลือน้ำอีก 120 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ดังนั้น ขอให้ทาง กยน.ไปหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การระบายน้ำจากต้นทางระบายน้ำสัมพันธ์กับปลายทางของน้ำ
โดยก่อนหน้าที่คณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปถึงบริเวณประตูระบายน้ำพลเทพ ได้มีพระบุญถิ่น ปรกฺกโร เป็นพระลูกวัดจากวัดคงสวัสดิ์วัฒนาราม ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท อยู่ไม่ไกลจากประตูน้ำพลเทพ มารอพบนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พระบุญถิ่น เปิดเผยว่า ต้องการมาเสนอข้อมูลโครงการขุดลอกบึงประจำวัง เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำ พร้อมสร้างอาคารอเนกประสงค์อีก 1 หลัง โดยใช้เนื้อที่ที่อยู่ข้างวัดให้กับนายกฯทราบ เพื่อจะได้ประสานงานให้โครงการดังกล่าวดำเนินการได้เร็วขึ้น เพราะได้ส่งโครงการบึงประจำวังไปที่สำนักราชเลขาธิการไปพิจารณาแล้ว โดยจะขอยื่นเอกสารและชี้แจงข้อมูลให้นายกฯทราบ เพื่อความชัดเจนเพียงแค่ 2 นาที โดยโครงการบึงประจำวังใช้พื้นที่ 847 ไร่ เมื่อทำเสร็จจะสามารถจุน้ำได้ 6.2 ล้าน ลบ.ม.ใช้งบฯประมาณที่ตคำนวณไว้ 691 ล้านบาท
แต่ปรากฏว่า พระบุญถิ่น ไม่ได้เข้าพบนายกฯแต่อย่างใด เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานที่ประจำอยู่ประตูระบายน้ำพลเทพ พยายามที่จะกันไม่ให้พบนายกฯ และได้ขอรับเรื่องไปดำเนินการส่งให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีเอง แม้ว่าพระบุญถิ่นจะขอเวลาแค่ 2 นาที ในการชี้แจงกับนายกฯด้วยตนเองก็ตาม จนกระทั่งคณะของนายกฯมาถึงได้มีเจ้าหน้าที่รวม 4 คนพากันรุมล้อมเข้าเกลี้ยกล่อม ซึ่งต่างอ้างว่าถ้าพระบุญถิ่นจะเข้าไปยื่นหนังสือในวันนี้จะไม่เหมาะสม แต่จะรับเรื่องส่งตรงไปยังอธิบดีกรมชลประทานโดยตรงเพื่อดำเนินการโดยเร็ว จากนั้นก็พาพระบุญถิ่นเดินออกจากบริเวณที่คณะของนายกฯมาตรวจงานเพื่อขัดขวางไม่ให้พบกับนายกฯเพื่อยื่นโครงการขุดลอกบึงดังกล่าว แต่ก่อนไปพระบุญถิ่นได้ฝากพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อคงไว้ให้นายกฯด้วย
พระบุญถิ่น กล่าวภายหลังถูกกีดกันไม่ให้พบนายกฯว่า หลวงพ่อก็ยังสะดุดใจอยู่ว่าทำไมต้องมาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่ให้เข้าพบนายกฯ หลวงพ่อก็ไม่ทราบว่า เป็นคำสั่งของอธิบดีกรมชลประทานจริงหรือไม่ ที่พยายามให้เจ้าหน้ากรมชลประทานมากีดกันหลวงพ่อไม่ให้พบนายกฯ ทั้งๆ ที่โครงการบึงกักเก็บน้ำมันสอดคล้องกับแผนงานที่รัฐบาลจะหาพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงในขณะนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะ นายวรชัย บำรุงผล ผอ.ประตูระบายน้ำพลเทพ ที่พยายามมาบอกว่าจะรับเรื่องไปดำเนินการให้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ถ้าเรื่องนี้ไม่คืบหน้าหลวงพ่อจะบุกไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามและชี้แจงให้นายกฯทราบที่ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ จ.สิงห์บุรี เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปถึงประตูระบายพลเทพ อ.เมือง เพื่อตรวจการทำงานของประตูระบายน้ำ โดยมี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานคอยชี้แจง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ประตูระบายน้ำพลเทพสามารถระบายน้ำได้ 320 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ขณะที่คลองที่รองรับท้ายน้ำสามารถรับน้ำได้แค่ 200 ล้าน ลบ.ม.ก็จะเหลือน้ำอีก 120 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ดังนั้น ขอให้ทาง กยน.ไปหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การระบายน้ำจากต้นทางระบายน้ำสัมพันธ์กับปลายทางของน้ำ
โดยก่อนหน้าที่คณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปถึงบริเวณประตูระบายน้ำพลเทพ ได้มีพระบุญถิ่น ปรกฺกโร เป็นพระลูกวัดจากวัดคงสวัสดิ์วัฒนาราม ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท อยู่ไม่ไกลจากประตูน้ำพลเทพ มารอพบนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พระบุญถิ่น เปิดเผยว่า ต้องการมาเสนอข้อมูลโครงการขุดลอกบึงประจำวัง เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำ พร้อมสร้างอาคารอเนกประสงค์อีก 1 หลัง โดยใช้เนื้อที่ที่อยู่ข้างวัดให้กับนายกฯทราบ เพื่อจะได้ประสานงานให้โครงการดังกล่าวดำเนินการได้เร็วขึ้น เพราะได้ส่งโครงการบึงประจำวังไปที่สำนักราชเลขาธิการไปพิจารณาแล้ว โดยจะขอยื่นเอกสารและชี้แจงข้อมูลให้นายกฯทราบ เพื่อความชัดเจนเพียงแค่ 2 นาที โดยโครงการบึงประจำวังใช้พื้นที่ 847 ไร่ เมื่อทำเสร็จจะสามารถจุน้ำได้ 6.2 ล้าน ลบ.ม.ใช้งบฯประมาณที่ตคำนวณไว้ 691 ล้านบาท
แต่ปรากฏว่า พระบุญถิ่น ไม่ได้เข้าพบนายกฯแต่อย่างใด เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานที่ประจำอยู่ประตูระบายน้ำพลเทพ พยายามที่จะกันไม่ให้พบนายกฯ และได้ขอรับเรื่องไปดำเนินการส่งให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีเอง แม้ว่าพระบุญถิ่นจะขอเวลาแค่ 2 นาที ในการชี้แจงกับนายกฯด้วยตนเองก็ตาม จนกระทั่งคณะของนายกฯมาถึงได้มีเจ้าหน้าที่รวม 4 คนพากันรุมล้อมเข้าเกลี้ยกล่อม ซึ่งต่างอ้างว่าถ้าพระบุญถิ่นจะเข้าไปยื่นหนังสือในวันนี้จะไม่เหมาะสม แต่จะรับเรื่องส่งตรงไปยังอธิบดีกรมชลประทานโดยตรงเพื่อดำเนินการโดยเร็ว จากนั้นก็พาพระบุญถิ่นเดินออกจากบริเวณที่คณะของนายกฯมาตรวจงานเพื่อขัดขวางไม่ให้พบกับนายกฯเพื่อยื่นโครงการขุดลอกบึงดังกล่าว แต่ก่อนไปพระบุญถิ่นได้ฝากพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อคงไว้ให้นายกฯด้วย
พระบุญถิ่น กล่าวภายหลังถูกกีดกันไม่ให้พบนายกฯว่า หลวงพ่อก็ยังสะดุดใจอยู่ว่าทำไมต้องมาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่ให้เข้าพบนายกฯ หลวงพ่อก็ไม่ทราบว่า เป็นคำสั่งของอธิบดีกรมชลประทานจริงหรือไม่ ที่พยายามให้เจ้าหน้ากรมชลประทานมากีดกันหลวงพ่อไม่ให้พบนายกฯ ทั้งๆ ที่โครงการบึงกักเก็บน้ำมันสอดคล้องกับแผนงานที่รัฐบาลจะหาพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงในขณะนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะ นายวรชัย บำรุงผล ผอ.ประตูระบายน้ำพลเทพ ที่พยายามมาบอกว่าจะรับเรื่องไปดำเนินการให้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ถ้าเรื่องนี้ไม่คืบหน้าหลวงพ่อจะบุกไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามและชี้แจงให้นายกฯทราบที่ทำเนียบรัฐบาล