xs
xsm
sm
md
lg

ตรังประกาศ 7 ตำบลเป็นเขตรับมือไฟป่าหน้าแล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - จ.ตรัง ประกาศ 7 ตำบล ใน 4 อำเภอ เป็นเขตช่วยดับไฟป่าในช่วงหน้าแล้งปี 2555 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดความรุนแรง

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี มักจะเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทำความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องใช้ และยานพาหนะ เข้าระงับดับไฟเป็นจำนวนมาก สาเหตุประการหนึ่งเกิดจากการเผาไร่ ฟางข้าว ซังข้าวโพด หญ้า และวัชพืช ในบริเวณที่ดินทำกินของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกโดยไม่มีการควบคุม ในที่สุดไฟก็ไหม้ลุกลามติดเข้าไปในป่ากลายเป็นไฟป่าขึ้น

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟป่าดังกล่าว อีกทั้งประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 15, 21, 28 และ 29 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2550 จังหวัดตรัง จึงกำหนดให้พื้นที่หมู่บ้านในเขตอำเภอสิเกา ได้แก่ ต.ไม้ฝาด ต.เขาไม้แก้ว ต.บ่อหิน อำเภอกันตัง ได้แก่ ต.เกาะลิบง ต.บางสัก อำเภอวังวิเศษ ได้แก่ ต.อ่าวตง และอำเภอเมืองตรัง ได้แก่ ต.นาโต๊ะหมิง เป็นเขตควบคุมไฟป่า ซึ่งประชาชนในเขตดังกล่าวต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในกรณีที่ทางราชการร้องขอ

และหากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับไฟเสียก่อนแต่ต้น เพื่อไม่ให้ไฟขยายออกเป็นวงกว้าง หรือหากไฟรุนแรงไม่สามารถดับได้ ให้รีบแจ้งหัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าตรัง ที่โทรศัพท์หมายเลข 08-1737-8081 หรือสายด่วน 1362 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าระงับไฟป่าทันที


ทั้งนี้ หากพบเห็นการจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-150,000 บาท หรือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 คือ ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้จะเป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท พร้อมขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ถือเป็นหน้าที่ต้องสอดส่องดูแลให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศอย่างเข้มงวด
กำลังโหลดความคิดเห็น