นครพนม - ผู้ตรวจมหาดไทยลงพื้นที่ตรวจโครงการชลประทานน้ำก่ำ เร่งรัดแก้ภัยแล้ง พบปัญหาระบบส่งน้ำชำรุด อปท.ขาดงบประมาณดูแลซ่อมแซม
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 11 เปิดเผยว่า หลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ดูแลบริหารจัดการน้ำจากน้ำหนองหาน จ.สกลนคร ถึง ลำน้ำก่ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง จ.นครพนม ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานดำริให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้าง ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2535 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝน
และช่วยราษฎรในท้องถิ่นบริเวณ 2 ฝั่งลำน้ำก่ำ ให้มีน้ำใช้ในการเกษตรการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างเกือบแล้วเสร็จใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 6,900 ล้านบาท ที่สามารถรองรับพื้นที่การเกษตรหน้าแล้งได้กว่า 51,000 ไร่ และมีเป้าหมายรองรับได้มากถึง 1.6 แสนไร่ ส่งผลดีต่อเกษตรกรมีอาชีพมีรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 11 กล่าวอีกว่าตนได้กำชับมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และโครงการชลประทาน ได้ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ได้มีน้ำใช้ในการทำการเกษตร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตามแนวทางพระราชดำริของในหลวง
และเน้นการขยายผลเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ให้มีอาชีพที่ยั่งยืน และมีความเป็นอยู่ที่ดี ส่วนปริมาณน้ำในพื้นที่กักน้ำของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันพบว่ามีปริมาณ 30 ล้านลูกบาตรเมตร หรือปริมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่กักน้ำ คาดว่าเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรในช่วงหน้าแล้งที่จะมาถึง
นายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ นายอำเภอธาตุพนม กล่าวว่า ปัญหาระบบชลประทานคลองส่งน้ำ และสถานีสูบน้ำ ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม เนื่องจากมีปัญหาหลังจากมีการถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแล แต่กับมีปัญหาขาดแคลนงบประมาณดูแล และซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดเสียหาย ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้หลายแห่ง
ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถรับน้ำจากระบบชลประทานได้ จนบางพื้นที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ในช่วงหน้าแล้ง จึงเสนอให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน