ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(13 ก.พ.) ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเริ่มลงพื้นที่เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์
โดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามแผน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างถาวร สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดและภาครัฐ ตั้งแต่ต้นน้ำ ทั้งโครงการชะลอน้ำ ปลูกป่า สร้างเขื่อน การจัดพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ ตลอดจนการระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ
ส่วนโครงการระยะยาวนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมีการทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่า การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันจะมีการติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ระดมนักวิชาการด้านน้ำ และเครือข่ายภาคประชาชน จัดเสวนาหัวข้อ"ตั้งโจทย์ประเทศไทย หวังอะไรจากทัวร์น้ำท่วม" มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเสวนา โดยให้การบ้านนายกรัฐมนตรี 10 ข้อ กรณีการลงพื้นที่ ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวยา การซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ระบบการเตือนภัย การบริหารจัดการน้ำ และเมื่อกลับจากลงพื้นที่ หากรัฐบาลมีข้อมูลและเหตุผล ที่สามารถประเมินได้ว่า ขาดงบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจริง ฝ่ายค้านพร้อมถอนการตีความ พ.ร.ก.การกู้เงินทั้ง 2 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ในวันพรุ่งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการพระราชดำริ การพัฒนาคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์ และการเตือนภัยด้านการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ก่อนจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นรูปธรรม
โดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามแผน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างถาวร สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดและภาครัฐ ตั้งแต่ต้นน้ำ ทั้งโครงการชะลอน้ำ ปลูกป่า สร้างเขื่อน การจัดพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ ตลอดจนการระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ
ส่วนโครงการระยะยาวนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมีการทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่า การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันจะมีการติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ระดมนักวิชาการด้านน้ำ และเครือข่ายภาคประชาชน จัดเสวนาหัวข้อ"ตั้งโจทย์ประเทศไทย หวังอะไรจากทัวร์น้ำท่วม" มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเสวนา โดยให้การบ้านนายกรัฐมนตรี 10 ข้อ กรณีการลงพื้นที่ ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวยา การซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ระบบการเตือนภัย การบริหารจัดการน้ำ และเมื่อกลับจากลงพื้นที่ หากรัฐบาลมีข้อมูลและเหตุผล ที่สามารถประเมินได้ว่า ขาดงบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจริง ฝ่ายค้านพร้อมถอนการตีความ พ.ร.ก.การกู้เงินทั้ง 2 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ในวันพรุ่งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการพระราชดำริ การพัฒนาคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์ และการเตือนภัยด้านการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ก่อนจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นรูปธรรม