ศรีสะเกษ - “คชก.” ไฟเขียวให้ “อคส.” เดินหน้ารับซื้อหอมแดงศรีสะเกษฉาวในโครงการแก้ปัญหาราคารอบ 2 ต่อ ย้ำต้องรับซื้อจากเกษตรกรตัวจริงโดยตรงตามจำนวนหอมแดงที่มีอยู่จริงตามที่แจ้งไว้ ป้องกันลักไก่สวมสิทธิ-เวียนเทียนทุจริต พร้อมสั่งเร่งตรวจสอบการทุจริตหอมแดงเน่าและล่องหนอื้อกว่า 7,000 ตัน รวมรัฐเสียหายสูญงบประมาณกว่า 240 ล้าน ลั่นเชือดขบวนการฉ้อโกงเงินหลวงทั้งแพ่งและอาญา
วันนี้ (23 พ.ค. ) นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการบริหารจัดการหอมแดงตามโครงการแก้ไขปัญหาราคาหอมแดงฤดูการผลิตปี 2554/2555 ทั้งระบบ ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ ตามคำสั่งของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ที่ 1/2555 ลงนามโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ประธาน คชก. เปิดเผยว่า จากการที่ตนและคณะได้ทำการตรวจสอบการรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่า หอมแดงที่อคส.ได้รับซื้อจากเกษตรกรในโครงการฯ รอบแรกกิโลกรัมละ 15 บาท ตามวงเงินงบประมาณตามที่รัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการจำนวน 324.5 ล้านบาท และนำหอมแดงไปฝากเก็บไว้ตามสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นผู้ประสานงานหาที่จัดเก็บให้กว่า 48 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ราษีไศล อ.ยางชุมน้อย อ.กันทรารมย์ และ อ.วังหินนั้น
ปรากฏว่าจากการตรวจกระสอบบรรจุหอมแดงทั้งหมด พบว่าหอมแดงได้หายไปจากคลังเก็บกว่า 7,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 40 ส่วนหอมแดงที่ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่งได้เน่าเสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 241 ล้านบาทที่รัฐต้องสูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินไปโดยเปล่าประโยชน์
ส่วนผลการตรวจสอบการรับซื้อหอมแดงโครงการฯ รอบที่ 2 ที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณดำเนินการอีก 1,265 ล้านบาท พบว่ามีการทุจริต โดยมีการลักลอบสวมสิทธิของเกษตรกรนำเอาหอมแดงมาขาย และมีการเวียนเทียนนำหอมแดงมาขายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รวมทั้งพบมีการโอนเงินค่ารับซื้อหอมแดงของเกษตรกรเข้าบัญชีของบุคคลคนเดียวหลายครั้งด้วย และมีเกษตรกรส่วนหนึ่งที่ขายหอมแดงให้ อคส.ในโครงการฯ รอบที่ 2 แล้วได้รับความเดือดร้อนเพราะยังไม่ได้รับเงินค่ารับซื้อหอมแดงเนื่องจากมีปัญหาอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ จนมีการเคลื่อนไหวชุมนุมเรียกร้องมาหลายครั้ง
นายอุบลศักดิ์กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการรับซื้อหอมแดงโครงการฯ รอบที่ 2 ตนจึงได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ซึ่งมีการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง และองค์การคลังสินค้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ที่ประชุมมีมติว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ให้แยกการดำเนินการในเรื่องนี้เป็น 2 ส่วน คือ 1. จะมีการตรวจสอบเกี่ยวกับการทุจริตการรับซื้อหอมแดงของโครงการฯ รอบที่ 1 เพราะมีผู้กระทำความผิดชัดเจนและมีขบวนการฉ้อโกงเงินหลวงจริง และ 2. ทาง คชก.ได้มอบให้องค์การคลังสินค้าดำเนินการรับซื้อหอมแดงโครงการฯ รอบ 2 ต่อไป โดยจะรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรที่ได้มาขึ้นทะเบียนไว้แล้ว เป็นเกษตรกรตัวจริงและมีหอมแดงอยู่จริงในปัจจุบัน ซึ่งรัฐจะคุ้มครองสิทธิให้ดำเนินการต่อไป
ฉะนั้น จากมติที่ประชุม คชก.ดังกล่าว หมายความว่าให้ดำเนินการโครงการฯ รับซื้อหอมแดงเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากเกษตรกรต่อไป แต่จะต้องมีหอมแดงอยู่จริงหรือมีเท่าไรก็เท่านั้น ส่วนเกษตรกรที่มาแจ้งไว้แล้วไม่มีของอยู่จริงจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ ฉะนั้นเกษตรกรที่รู้ตัวว่าไม่มีหอมแดงอยู่จริงก็ให้ถอนชื่อออกไป หากมาลักไก่ อคส.ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะต่างคนต่างตรวจสอบได้ ส่วนเกษตรกรที่มีหอมแดงอยู่แล้วและขายไปแล้วก็ต้องได้เงิน และจากไปนี้เกษตรกรที่จะขายหอมแดงให้ อคส.ให้สามารถยื่นเรื่องได้โดยตรงโดย ไม่ต้องผ่านสหกรณ์ หรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น และ อคส.จะลงไปดำเนินการเอง
นายอุบลศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับการทุจริตโครงการแก้ไขปัญหาราคาหอมแดง ของ จ.ศรีสะเกษ สรุปว่าในส่วนของหอมแดงที่สูญหายไปจากคลังเก็บสินค้ากว่า 7,000 ตัน ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งบอร์ด คชก.ได้มอบหมายให้เลขานุการ คชก.ไปแจ้งให้ อคส. ไปดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ สิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินการทางแพ่งและอาญา หาก อคส.ไม่ดำเนินการจะเป็นเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราจะไม่ยอมให้นักการเมืองมาฉกฉวยประโยชน์จากโครงการของรัฐอย่างเด็ดขาด รัฐบาลจะแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นหลัก และได้มอบให้ อคส.ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบต่อไปแล้ว
