ศรีสะเกษ - พ่อค้าถอนตัวเมินร่วมประมูลหอมแดงศรีสะเกษของ “อคส.” หลังจากเข้าไปตรวจสอบสภาพหอมแดงเน่าที่ อคส.ซื้อจากเกษตรกรรอบแรกจัดเก็บไว้ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเหลืออยู่กว่า 2 หมื่นตัน ผลาญงบฯ ไปกว่า 300 ล้าน พบมีลักษณะแห้ง เหี่ยว และหัวลีบ ไม่สามารถนำขายทอดตลาดได้ ชี้มีสภาพดีกินได้ไม่ถึง 10%
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่คลังเก็บหอมแดงขององค์การคลังสินค้า ภายในวิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าหอมแดงมีลักษณะแห้ง เหี่ยว และหัวลีบ อยู่ในสภาพที่รับประทานได้มีไม่ถึงร้อยละ 10 ซึ่งเกิดจากการนำหอมแดงมาวางทับถมกันจำนวนมากเป็นเวลานาน ทำให้อากาศไม่สามารถถ่ายเทได้ ส่งผลให้หอมแดงกว่า 10,000 ตันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปริมาณหอมแดงที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ได้รับซื้อจากเกษตรกร จ.ศรีสะเกษ ในโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงของรัฐบาล นำมาจัดเก็บไว้สถานที่แห่งนี้ และได้เน่าเสียไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดทาง อคส. กระทรวงพาณิชย์ ได้หาทางแก้ไขปัญหาระบายหอมแดง ซึ่งรับซื้อในรอบแรกด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ที่เหลืออยู่กว่า 20,000 ตันตามสถานที่จัดเก็บต่างๆ ในจ.ศรีสะเกษ ออกสู่ตลาด โดยการเปิดให้กลุ่มพ่อค้าหอมแดงใน จ.ศรีสะเกษ และทั่วประเทศ ได้เข้ามาร่วมประมูลหอมแดงที่ใกล้เน่าเสียทั้งหมดแล้วดังกล่าว
นายทัศนัย มากพุ่ม ผู้ประสานงานองค์การคลังสินค้าประจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดเข้ามาลงชื่อประมูลหอมแดงออกไปขายแต่อย่างใด มีเพียงการทาบทามเท่านั้น และได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มพ่อค้าหอมแดงใน จ.ศรีสะเกษ เพราะหอมแดงมีลักษณะแห้ง เหี่ยว และหัวลีบ ทำให้ไม่สามารถนำออกไปขายทอดตลาดได้
ทางด้าน นายไพศาล พงค์จันตา พ่อค้าหอมแดงใน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับการทาบทามจากทาง จ.ศรีสะเกษ และองค์การคลังสินค้าหลายครั้งแล้วเพื่อให้เข้าร่วมการประมูลหอมแดงที่มีอยู่กว่า 20,000 ตันที่ทางองค์การคลังสินค้าได้นำไปฝากเก็บไว้ตามสถานที่ต่างๆ ของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจากการที่ได้เข้าไปตรวจสอบและดูสภาพของหอมแดงหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าหอมแดงที่มีสภาพสามารถนำไปรับประทานได้มีเพียงไม่ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น หากเข้าไปประมูลแล้วคงไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไป เพราะหอมแดงไม่สามารถนำออกไปขายทอดตลาดได้ แต่หากจะนำไปส่งขายให้โรงงานทำน้ำพริกก็อาจจะพอคัดแยกได้บ้าง
“อย่างไรก็ตาม หากเป็นหอมแดงจากสหกรณ์หอมแดงราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ที่เปิดให้รับซื้อในรอบที่ 2 (รัฐบาลอนุมัติงบฯ ให้ดำเนินการอีก 1,200 ล้านบาท) และนำฝากเก็บไว้กับเกษตรกรนั้นพอที่จะเข้าไปประมูลได้ เพราะมีการจัดเก็บหอมแดงดีและยังอยู่ในสภาพที่สามารถรับประทานได้ จึงอยากเสนอแนะให้ทางองค์การคลังสินค้าได้เปิดประมูลหอมแดงในส่วนที่นำไปฝากเก็บไว้กับเกษตรกรด้วย” นายไพศาลกล่าวในตอนท้าย
