แดงอีสานเสื่อม โพลชี้หลาน"จิ๋ว"ส่อพ่ายเลือก อบจ.นครพนม-"เหวง-ก่อแก้ว"ช่วยไม่ได้

นครพนม - ม.นครพนมเปิดโพลเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.นครพนม เรตติ้งผู้สมัครแดงแท้ หลานพ่อใหญ่จิ๋วร่วง แพ้ฝ่ายแดงเทียมเกินครึ่งเหลือเชื่อ ทั้งที่ระดับแกนนำเสื้อแดง “หมอเหวง-ก่อแก้ว” ลงพื้นที่ปราศรัยช่วยและ “ไอ้ตู่” เตรียมมาสมทบ

ที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม รศ.ดร.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ได้เป็นประธานเปิดแถลงข่าวการสำรวจทำโพลการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.นครพนม ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง ซึ่งปรากฏว่าเหนือความคาดหมายคือผู้สมัครหมายเลข 1. ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.เรดติ้งกระแสนิยมพุ่งถึง 60.10 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้สมัครหมายเลข 2 น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ ยงใจยุทธ หลาน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กระแสนิยม 39.90 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับผู้สมัคร ส.อบจ.ทุก 12 อำเภอเกินครึ่งเช่นกัน

อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนมเปิดเผยว่า เป็นการทำโพลสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกระดับชั้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งจริงในวันที่ 27 พฤษภาคม 55 ที่จะถึงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการสำรวจที่ออกมาเป็นปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อ เนื่องจากผู้สมัครหมายเลข 2 น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ ยงใจยุทธ เป็นหลานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ส่งลงและดันเต็มที่ โดยมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น ส.ส.มนพร เจริญศรี บุตรนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.ชวลิต วิชยสุทธ ส.ส.ยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.อรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ ล้วนแต่ขาใหญ่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน

หนำซ้ำแกนนำของกลุ่มเสื้อแดงอย่าง “หมอเหวง-ก่อแก้ว” เดินทางมาปราศรัยช่วยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และประมาณหลังวันที่ 20 พฤษภาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอีกคน ก็มีโปรแกรมมาปราศรัยช่วยเพื่อเป็นการค้ำประกันว่าผู้สมัครหมายเลข 2 น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ ยงใจยุทธ หลานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นแดงแท้พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน พร้อมกับมีเอกสารยืนยันจากพรรคเพื่อไทยแต่โพลออกมากลับเป็นคนละเรื่อง

ในขณะที่ผู้สมัครหมายเลข 1 ดร.สมชอบ นิติพจน์ ได้รับการสนับสนุนจากนายไพจิต ศรีวรขาน นายชูกัน กุลวงษา ส.ส.เพื่อไทย 2 คนที่ไม่สามารถทิ้ง ดร.สมชอบได้เพราะเป็นลูกน้องเก่า และถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีทุกสนามว่าเป็นแดงเทียมแต่โพลออกมาคะแนนนำเหลือเชื่อ

ผู้สื่อข่าววิเคราะห์ว่า เมื่อผลออกมาแบบนี้ คือชาวนครพนมเริ่มไม่พอใจที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงมาชี้นำเหมือนชาวนครพนมไร้ความคิด ต้องทำตามคำสั่งแกนนำเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทย จึงเกิดกระแสต่อต้านที่มาจุ้นสนามการเมืองท้องถิ่น ทำให้ผลออกมายิ่งแกนนำใหญ่เสื้อแดงมานครพนมคะแนนยิ่งวูบ “ลักษณะคล้ายคนนครพนมอยากสั่งสอนเสื้อแดง”