ระยอง-ชาวบ้านชุมชนซอยร่วมพัฒนานัดรวมตัวหน้าโรงงานบีเอสทีฯ เรียกร้องเงินชดเชยความเสียหาย หวั่นไม่มีใครรับผิดชอบ
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ทำการชุมชนซอยร่วมพัฒนา เทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง นายบวรวิช ภุชชงค์ ประธานชุมชนซอยร่วมพัฒนา และคณะกรรมการชุมชน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่ 14 พฤษภาคม หรือวันพรุ่งนี้ ชาวบ้านซอยร่วมพัฒนากว่า 200 คนจะนัดรวมตัวกันที่บริเวณหน้าบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง และที่บริเวณหน้าสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องเงินชดเชยความเสียหายที่ชาวบ้านซอยร่วมพัฒนาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดในบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ชาวบ้านกว่า 2,000 รายได้กรอกรายละเอียดค่าเสียหายทั้งหมด และยังวิตกกังวลเกรงจะเกิดการระเบิดซ้ำ รวมทั้งชุมชนซอยโสภณอีกกว่า 1,000 ราย พร้อมที่จะนำเอกสารไปยื่นให้บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด พิจารณา
นายบวรวิชกล่าวว่า ชาวบ้านกำลังประสบปัญหาเรื่องสุขภาพจิต กลางดึกฝนตกฟ้าร้องต้องนอนหวาดผวาเกรงจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดซ้ำอีก ชาวบ้านได้เขียนรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายในการอพยพในวันเกิดเหตุ ที่บางรายหนีไปเช่าห้องพักค้างคืนที่อื่น รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าซอยร่วมพัฒนาตลาดมาบตาพุดและตลาดโสภณได้เสียโอกาสจากธุรกิจ เพราะหลังเกิดระเบิดทำให้ลูกค้าหนีหมด สินค้าที่ลงทุนซื้อมาขายก็ขายไม่ได้ ซ้ำยังต้องอพยพหลบหนี
ด้าน นางวิชาดา เขียวสลับ อยู่บ้านเลขที่ 35/11 ซอยร่วมพัฒนา เขียนในเอกสารว่า เกิดความวิตกกังวล นอนไม่หลับ มีอาการหวาดผวาตลอดเวลา ส่วนนางจินดา พุ่มเกษม ชาวบ้านอีกรายเรียกร้องค่าน้ำมัน และค่าเช่าห้องพัก
ขณะที่นางสมพงษ์ ศรีสมบูรณ์ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/8 ซอยร่วมพัฒนา ปัจจุบันมีโรคประจำตัวโรคความดันโลหิตสูง หลังได้ยินเสียงระเบิดวันเกิดเหตุมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเต็มท้องฟ้า ทำให้มีอาการร่างกายอ่อนเพลีย ง่วงซึม วิตกกังวล เกิดอาการเครียด
เมื่อทราบข่าวว่านางวิน นวลศรี อายุ 71 ปี เพื่อนบ้าน เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยิ่งทำให้มีอาการเครียดหนัก เนื่องจากนางวินเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเพียงแต่ที่ขามีบาดแผลอักเสบและบวมเท่านั้น แต่กลับเสียชีวิตกะทันหัน สาเหตุน่าจะเกิดความเครียดหลังได้ยินเสียงระเบิด
ทั้งนี้ ทางตัวแทนของกลุ่มชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวยังกล่าวด้วยว่า หากการเรียกร้องเงินชดเชยความเสียหายไม่มีความคืบหน้า ก็จะมีการเคลื่อนไหวยกระดับขึ้นไปอีกจนกว่าจะได้รับคำตอบเป็นที่พอใจจึงจะสลายการชุมนุม