ตราดเอฟซี ชนะ มาบตาพุดนาวิกโยธินระยองไม่พอ หวิดแตะกันนอกสนาม

ตราด - ตราดเอฟซี ชนะ มาบตาพุดนาวิกโยธินระยอง 1:0 ช่วงทดเวลาการแข่งขัน ขณะผู้เล่น มาบตาพุดฯ ไม่พอใจกรรมการเป่าลูกหมดเวลาขณะจะยิงประตูตราดเอฟซี เกือบมีเรื่อง

เมื่อค่ำวานนี้ (6 พ.ค.) ตราดเอฟซี ไม่มีรัฐพร แซ่ตั๋น กัปตันทีมลงแข่ง เนื่องจากถูกห้ามลงแข่งขันป็นเวลา 4 นัด และนัดนี้เป็นครังที่ 2 ที่ให้มิโรสลาฟ ทอธ เป็นกัปตันทีมแทน ส่วนผู้เล่นยังใช้ตัวหลัก และเสริมด้วยดาวรุ่งหลายคน เช่น ทรงพล แก่นท้าว และกิตติพันธ์ จันทาทุม ลงแทน ขณะที่ทีมมาบตาพุดนาวิกโยธินระยองนำชุดใหญ่ลงแข่งขัน

เริ่มการแข่งขัน ตราดเอฟซี ใช้เกมบุกที่เป็นอาวุธสำคัญโดยเฉพาะลูกโยนเข้าประตู โจมตีกองหลังของมาบตาพุดเป็นการทักทาย แต่ถูกโต้กลับซึ่งทีมมาบตาพุดใช้ความสด และความใหญ่โตของร่างกายเข้าปะทะกับกองหน้า และกองกลางอย่างได้ผล สามารถทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องใน 10 นาทีแรก และได้ลูกหวาดเสียวหลายครั้ง ซึ่งเอมมานูเอล โดเอ้ ต้องออกแรงเซฟลูกอันตรายหลายครั้ง

ตราดเอฟซีเริ่มปรับเกมได้ในนาทีที่ 20 และทำเกมบุกไปยังมาบตาพุดได้หลายครั้ง โดยเฉพาะการโยนลูกโด่งเข้าประตู และให้กิตติพันธ์ จันทาทุม และมิโลสลาฟ ทอธโหม่งแต่ยังไม่ได้ผล แม้จะได้ลูกเตะมุมหลายครั้งก็ตาม ตั้งแต่นาทีที่ 30 เป็นต้นไป ตราดเอฟซีทำเกมบุกได้ต่อเนื่องเกือบทำประตูได้ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้จบสกอร์ ซึ่งมาบตาพุดก็ใช้เกมโต้กลับและได้ผลส่งลูกเข้าประตูตราดได้ใกล้เคียงหลายครั้ง จนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขันทดเวลาไป 3 นาที ช่วงทดเวลานาทีแรกมาบตาพุดเกือบได้ประตูจากลูกเตะมุม แต่ถูกสกัดออกได้จนหมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ตราดเอฟซี ปรับแท็กติกใหม่ ปีกทั้ง 2 ข้างโยนลูกเข้ากลางประตู พร้อมเปลี่ยนให้สุรชัย วรรณทวี เข้าปรับเกมกองกลาง โดยให้โรมัน ลาซู ออกมา เกมในช่วง 15 นาทีแรก ตราดเอฟซี บุกหนัก และการโยนส่งลูกเข้าหน้าประตูได้ลูกหวาดเสียวหลายครั้ง ทั้งลูกฟรีคิก และลูกเตะมุม ทำให้ประตูของมาบตาพุดต้องปัดลูกและเซฟลูกหลายครั้ง

นาทีที่ 62 มาบตาพุด โต้กลับ หลังตราดเอฟซี บุกเพลิน โดยหมายเลข 7 วิลเลี่ยม ลากลูกหลบกองหลังตราดเอฟซี แล้วยิงทันที โดเอ้ ปัดลุกออกคานได้อย่างหวุดหวิด

ทั้ง 2 ทีมปรับทีมใหม่ ส่งผู้เล่นใหม่เข้า แต่ตราดเอฟซีได้แรงเชียร์ทำให้ฮึดบุกมาบตาพุดได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะทินกร อสุรินทร์ และ มิโลสลาฟ ทอธ ทำชิ่งได้ดี จนประตูมาบตาพุดต้องปัดออกหลายครั้ง ซึ่งเกมมีความรุนแรงมากขึ้นจนทั้ง 2 ทีมได้ใบเหลือง และเจ็บบ่อยครั้ง จนหมดเวลา ทดเวลาไป 6 นาที

ในนาทีที่ 4 ของการทดเวลา ตราดเอฟซี บุกหนัก และสิทธิชัย มัสบูงอ ได้ลูกแล้วพาเข้าไปในกรอบเขตโทษ และกำลังส่งลูกให้เพื่อน แต่กองหลังมาบตาพุดเตะข้อเท้า ทำให้กรรมการเป่าให้ลูกโทษ ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นมาบตาพุด

มิโลสลาฟ ทอธ เป็นผู้เตะลูกโทษ และเตะเข้ากลางประตู ขณะที่ประตูมาบตาพุดหลงทางทำให้ตราดเอฟซีได้ประตูนำไป 1 : 0 ประตู แต่เมื่อมาบตาพุดเขี่ยลูกได้ส่งลูกไปหน้าประตูตราดเอฟซี และยิงประตูชนเสาประตูเด้งออกมา ขณะที่นักเตะจะยิงประตู กรรมการเป่าหมดเวลาแข่งขัน ทำให้ผู้เล่นหมายเลข 6 สมศักดิ์ ภูสมนึก กัปตันทีม ไม่พอใจวิ่งเข้าหากรรมการและชี้หน้า และมีผู้เล่นอีก 2 คนกรูเข้ามา ขณะที่ นายศุภมัตร ฉัตทกิตติชัย วิ่งเข้าหากรรมการจะทำร้าย ส่งผลให้ตำรวจ, อพปร. เจ้าหน้าที่ของ ตราดเอฟซี และมาบตาพุดเข้าห้าม ขณะที่นายรัฐวิทย์ ประมวลรัฐ ผู้ตัดสิน ถูกตำรวจกันตัวออกไปจากสนาม และนำเข้าห้องพักไป ท่ามกลางเสียโห่ร้องตะโกนของกองเชียร์ที่ไม่พอใจในการประท้วงของทีมมาบตาพุด นาวิกโยธิน ระยอง

ในที่สุด สถานการณ์กลับมาสู่สภาวะปกติ และตราดเอฟซีชนะมาตาพุด นาวิกโยธิน ระยอง หวุดหวิด 1;0 ประตู ขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโซนภาคกลางภาคตะวันออก มีคะแนนตาม อยุธยาเอฟซี 2 คะแนน และนำระยองเอฟซี 1 คะแนนในขณะนี้

และหลังจบการแข่งขัน แฟนบอลได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้แก่ ฉัตรดนัย จุมผา เบอร์ 35 ซึ่งวันแข่งขันเป็นวันคล้ายวันเกิด

สำหรับยอดขายบัตรผ่านประตูได้ 154,900 บาท จำนวนคนซื้อบัตรผ่านประตู 3,098 คน แต่คาดว่ามีคนมากกว่า 4,000 คน ส่วนการขายของที่ระลึกได้ 166,200 บาท

น.ท.เอกลักษณ์ ทรัพย์สิน ผู้ฝึกสอนกล่าวว่า การเป่าหมดเวลาการแข่งขันของกรรมการขณะที่ลูกยังไม่ตาย เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ควรที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นของมาบตาพุดได้ทำเกมก่อน ซึ่งตนเองไม่โทษผู้เล่นของมาบตาพุด เพราะกรรมการจะต้องให้ความยุติธรรมแก่ทั้งสองทีม