ประจวบตีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบฯ สนธิกำลังหน่วยงานด้านอนุรักษ์ทั้ง อุทยาน ทหาร ตำรวจ และทีมปศุสัตว์บุกจับคณะช้างโชว์เคลื่อนที่ต้องสงสัยอาจมีการสวมรอยช้างป่า ตรวจสอบละเอียดพบอ้างชื่อปางช้างชื่อดังของหัวหินเพื่อเคลื่อนย้ายช้าง 2 ตัว แถมยังผิด พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ด้วย ผู้ว่าฯ เผย ปัญหาช้างโชว์และช้างเร่ร่อน เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาลักลอบค้าช้าง และลูกช้างป่า หวังป้องปรามปัญหาค้าช้างป่าในพื้นที่ให้หมดไป
วันนี้ (4 พ.ค.) นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี สัตวแพทย์สาโรจน์ จันทร์ลาด หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายทนุธรรม โนนทุมมา หัวหน้าฝ่ายสารวัตรด่านปศุสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก WWF. ประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 หน่วยงาน ได้สนธิกำลังกันบุกเข้าตรวจสอบคณะแสดงช้างโชว์ที่จะมาเปิดทำการแสดงที่บริเวณโรงเรียนบ้านรวมไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่า จะเป็นการลักลอบนำช้างป่ามาสวมรอย จึงเข้าตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ใบอนุญาตต่างๆ และเอกสารแสดงรูปพรรณช้าง
จากการตรวจสอบพบว่า คณะช้างโชว์ดังกล่าว มีนายธีรวัฒน์ กลมกล่อม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 ม.12 ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ รับเป็นเจ้าของ โดยอ้างว่าได้เดินทางมาจากจังหวัดชัยภูมิ พร้อมกับคณะที่มาร่วมทำการแสดงอีก 6 คน โดยได้มาเปิดทำการแสดงที่บริเวณโรงเรียนบ้านรวมไทย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่าจะมีการสวมรอยช้างป่า และเกรงว่าจะนำช้างในคณะไปต่อลูกช้าง หรือช้างเด็กขนาดเล็ก ในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งขณะนี้ มีช้างป่าเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอย่างมากอันเป็นผลมาจากการแก้ปัญหาคนกับช้างที่เกิดจากความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบเอกสารต่างๆ พบว่า ช้างทั้ง 2 เชือก มีช้างพังเพศเมีย ชื่อทองย้อย อายุ 10 ปี 2 เดือน รูปพรรณตรงตามเอกสาร ส่วนช้างพลายเพศผู้ ชื่อ แม๊กนั่ม อายุ 10 ปี เช่นเดียวกัน พบว่าจำนวนเล็บที่แจ้งไว้ในเอกสารไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังพบว่าเอกสารที่แจ้งขอเคลื่อนย้ายช้างปลายทางระบุว่า ขอย้ายช้างมาทำการแสดงที่ปางช้างหัวหินซาฟารี ที่ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน ซึ่งเป็นปางช้างชื่อดัง โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปที่หัวหินซาฟารี ทำให้ทราบข้อมูลว่า ไม่มีช้างชื่อช้างทั้ง 2 เชือกเข้ามาขอพักแต่อย่างใด ถือเป็นการแอบอ้างชื่อ และเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม มาตรา 49 ของ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2552
ด้านนายธีรวัฒน์ กลมกล่อม ซึ่งรับเป็นเจ้าของคณะ ได้อ้างว่า ตนและทีมงานเคยเป็นลูกจ้างมาก่อน แต่เจ้าของเดิมได้เลิกทำคณะช้างโชว์ จึงขอช้างทั้ง 2 เชือกไว้เพื่อตนเอง และทีมงานจะได้ทำต่อ จึงนำช้างออกแสดงโชว์ไปเรื่อยๆ และคิดว่ามีเอกสารต่างๆ ครบและถูกต้องแล้ว ไม่คิดว่าผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ทำการอายัดช้างทั้ง 2 เชือกไว้ก่อนเพื่อทำการตรวจสอบให้ละเอียดต่อไป
ทางด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ปัญหาช้างโชว์และช้างเร่ร่อน ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาลักลอบค้าช้างและลูกช้างป่า ทางจังหวัดจึงถือเป็นนโยบาย สั่งห้ามมีช้างโชว์และช้างเร่ร่อนดังกล่าวภายในจังหวัด โดยจะดำเนินมาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด เพื่อหวังป้องปรามปัญหาการลักลอบค้าช้างป่า และลูกช้างในพื้นที่ให้หมดไปในที่สุด