ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯประจวบ พร้อมสัตว์แพทย์ และหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ตร.บ้านหนองพลับ เข้าตรวจสอบซากโครงกระดูกช้างในป่าลึกเขตอุทยานฯแก่งกระจาน หลังพบอยู่บริเวณรอยต่อ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เบื้องต้นพิสูจน์แล้วเป็นช้างป่าขนาดใหญ่อายุไมต่ำกว่า 30 ปี และตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เนื่องจากไม่พบส่วนกะโหลกศีรษะ ซึ่งชิ้นส่วนที่พบมีเพียง 19 ชิ้นเท่านั้น
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (12 ก.พ.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ จิรพิทักษ์กุล ปลัดอาวุโส รักษาการณ์นายอำเภอหัวหิน นายอนุวัช เต็มชัย ปลัดอำเภอหัวหิน นายสาโรจน์ จันทร์ลาด นายสัตว์แพทย์ชำนาญการพิเศษ ประจำสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย พ.อ.วิวัฒน์ หงษ์บันดาลสุข หน.หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ฉก.จงอางศึก อส.หัวหิน พ.ต.ท.พิบูลย์พันธุ์ ใบเกตุ รอง.ผกก.สส.สภ.บ้านหนองพลับ นายปัญญา เจริญมิ่งมงคล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านละเมาะ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวิรัช รสเครือ รองนายก อบต.หนองพลับ เดินทางไปตรวจสอบซากโครงกระดูกช้างป่า หลังจากผู้ว่าฯประจวบฯได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านละเมาะว่า พบโครงกระดูกช้างป่าในป่าลึก
ซึ่งคณะทั้งหมดได้เดินเท้าเข้าป่าผ่านลำห้วยและป่าผาก ผ่าไผ่ ใช้เวลานานประมาณ 2 ชม.จึงพบโครงกระดูกช้างป่า กระจายอยู่ตามลำห้วยและตามป่าไผ่ จึงได้เก็บรวบรวมได้จำนวน 20 ชิ้น แต่ไม่พบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ แต่อย่างใด ซึ่งพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินของช้างป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ออกหากินในส่วนของพื้นที่บ้านละเมาะ บ้านป่าละอู และบ้านป่าเด็ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ใช้พิกัดจีพีเอสตรวจสอบพบว่าพิกัดที่พบโครงกระดูกช้างป่านั้นอยู่ในพื้นที่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอยู่ห่างจากจุดที่มีการเผานั่งยางช้างป่าที่ท้ายอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 ประมาณ 7-8 กม.หลังจากเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเก็บรวบรวมซากโครงกระดูกช้างป่า และนำโครงกระดูกลงมาในช่วงเย็นที่ผ่านมา และทำการตรวจสอบที่บริเวณ อบต.หนองพลับ พร้อมแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่งกระจาน มาร่วมกันตรวจสอบซึ่งก็มีการยืนยันว่า เป็นโครงกระดูกช้างป่าจริง
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากทางสัตว์แพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าโครงกระดูกช้างป่าแก่งกระจาน ทั้งหมดรวมแล้ว 19 ชิ้น ประกอบไปด้วยโครงกระดูกเชิงกราน และกระดูกต้นขาหลังขนาดใหญ่ พร้อมฟันกราม กระดูกสันหลัง ฯลฯ ซี่โครงกระดูกส่วนใหญ่ขึ้นรา
เบื้องต้นทางสัตว์แพทย์ เชื่อว่า ช้างป่าตัวนี้อายุราว 30 ปีขึ้นไป และเป็นช้างขนาดใหญ่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า ตายจากสาเหตุใดเนื่องจากชิ้นส่วนที่พบมีน้อย และไม่ทราบเพศ รวมถึงชิ้นส่วนของกระโหลกศรีษะก็ไม่พบเช่นกันคาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี สำหรับซากโครงกระดูกช้างป่าทั้งหมดได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่งกระจาน เอาไปและให้ทางเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
นายวีระ กล่าวด้วยว่า ทางจังหวัดได้มีการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอหัวหิน อำเภอกุยบุรี เกี่ยวกับเรื่องปัญหาช้างป่า และการให้ทุกภาคส่วนช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาการฆ่าช้างป่า ซึ่งในวันนี้ทางอำเภอหัวหิน ก็ได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บ้านละเมาะว่าพบโครงกระดูกช้างป่า จึงขึ้นไปตรวจสอบทำให้เห็นว่าวันนี้ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมกันดูแลผืนป่าและสัตว์ป่า และคอยแจ้งข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะช้างป่าถึงแม้ตัวที่พบจะตายมานานแล้วก็ตาม